ระยอง-ชาวบ้านใน อ.บ้านค่าย สุดทน สารเคมีโรงงานกรดมะนาวร้างไหลลงแหล่งน้ำ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 18 พ.ย.67 นายภราดร ชนะสุนทร ประธานอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) อ.บ้านค่าย จ.ระยอง และประธานกลุ่มเฝ้าระวังน้ำผิวดิน จ.ระยอง พร้อมด้วยนายมานพ เจริญมหาบารมี รองประธานกลุ่มเฝ้าระวังผิวดินจ.ระยอง และชาวบ้านกว่า 20 คน ได้เดินทางมาที่ บริษัทนิรันดร์ (ประเทศไทย) จำกัด ม.2 ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย ซึ่งเป็นโรงงานกรดมะนาวที่ปิดกิจการไปแล้ว โดยมีนายธีรวัฒน์ จันทนุพงศ์ วิศวกรปฏิบัติการ อุตสาหกรรม จ.ระยอง และ เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ระยอง ร่วมตรวจสอบบริเวณอาคาร 7 ชั้น
พบว่ามีน้ำขังทั่วทุกชั้น มีกลิ่นฉุนของสารเคมีจนแสบจมูก มีการเก็บตัวอย่างน้ำตรวจสอบพบว่ามีค่าของกรด และด่างเกินค่ามาตรฐาน ซ้ำร้ายฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก เมื่อวันที่ 17 พ.ย.67 น้ำฝนได้ชะล้างสารเคมีไหลออกไปนอกโรงงานลงลำรางท่อน้ำหน้าโรงงานแล้วไหลล้นทะลักลงไปในคลองปลากั้งที่อยู่ด้านท้ายโรงงาน ซึ่งเป็นคลองที่ชาวบ้านนำน้ำไปใช้รดต้นทุเรียน และ พืชผลทางเกษตร โดยที่ผ่านมาได้รับผลกระทบต้นทุเรียนถึงกับแห้งเฉา และปลาในคลองลอยตายเกลื่อน
นายธีรวัฒน์ จันทนุพงศ์ วิศวกรปฏิบัติการ สำนักงานอุตสาหกรรม จ.ระยอง กล่าวว่า จากการตรวจสอบค่าของน้ำที่ขังอยู่ภายในอาคาร พบมีค่ากรดและด่างเกินค่ามาตรฐาน เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และสัตว์น้ำ ที่สำคัญน้ำจากสารเคมีดังกล่าว หากฝนตกลงมาน้ำปนเปืัอนสารเคมี ก็จะไหลล้นทะลักท่อด้านหน้าโรงงาน ลงไปในคลองปลากั้งที่อยู่ท้ายโรงงาน จนสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ที่ต้องอาศัยแหล่งน้ำในการเกษตร และยังซึมลงผิวดิน ทั้งนี้ที่ผ่านมาอุตสาหกรรม จ.ระยอง ได้เข้ามาตรวจสอบแล้วหลายครั้ง และได้มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรไปยัง สำนักงานบังคับคดีจ.ระยอง และกองบังคับคดีล้มละลาย 6 กรมบังคับคดี ให้ทราบถึงผลกระทบ และให้เร่งนำเศษซากเครื่องจักร เศษท่อ และ วัสดุภายในอาคาร 7 ชั้น ที่ปนเปืัอนสารเคมีออกไปกำจัดอย่างถูกวิธีโดยเร็ว ผ่านมา 1 เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใด ซึ่งหากปล่อยไว้ก็จะยิ่งสร้างความเดือดร้อนต่อไป
ด้านนายมานพ เจริญมหาบารมี รองประธานกลุ่มเฝ้าระวังผิวดิน จ.ระยอง กล่าวว่า หากยังไม่ดำเนินการใด จากหน่วยงานที่รับผิดชอบ คือ กรมบังคับคดี จะรวบรวมพยานหลักฐาน เข้าแจ้งความกล่าวโทษที่ สภ.หนองกรับ เพราะความเดือดร้อนของชาวบ้านรอไม่ได้ เดือดร้อนมาตั้งแต่โรงงานเริ่มผลิต พอถูกสั่งปิดเพราะมลพิษเกินมาตรฐาน ก็ยังสร้างความเดือดร้อนมาตลอด เกิดความเสียหายต่อวิถีชีวิตชาวบ้าน ทั้งร่างกาย ทรัพย์สิน และพืชผลทางการเกษตรล้มตาย เตรียมรวมตัวผู้เสียหายแจ้งความเอาผิด และฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอีกทางหนึ่งด้วย
ด้านชาวบ้านต่างก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครกับความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน แต่ก็ไม่มีใครรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น เพียงแค่ให้นำเศษซากปนเปื้อนออกไปกำจัด ทุกอย่างก็คลี่คลายแล้ว แต่ทำไมจึงไม่ยอม ไม่ทราบว่ากรมบังคับคดี มีอะไรแอบแฝง จนมองไม่เห็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน หรือเห็นประโยชน์ของนายทุนมากกว่าความเดือดร้อนของชาวบ้าน ฝากไปยังผู้ใหญ่ของกรมบังคับคดี ช่วยตรวจสอบด้วย ก่อนที่ชาวบ้านจะหมดความอดทน บุกไปทวงถามถึงกรมบังคับคดี