ชลบุรี-เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกับศูนย์ปันน้ำใจสาธุ มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กองทัพเรือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์
ข้อตกลงนี้ทำขึ้น ณ สำนักงานเทศบาลตำบลเขตรอุมดมศักดิ์ เมื่อวันที่ 3 เดือนตุลาคม พ.ศ.2567 ระหว่างเทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยนายไพโรจน์ มาลากุล ณ อยุธยา นายกเทศมนตรีตำบลเขตรอุดมศักดิ์ กับศูนย์ปันน้ำใจสาธุ มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กองทัพเรือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยพลเรือตรีหญิง อำไพวัลย์ สวยสม ประธานศูนย์ปันน้ำใจสาธุ มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กองทัพเรือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เห็นชอบ ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญร่วมกัน
ในการดำเนินการช่วยเหลือครอบครัวประชาชนที่มีความเดือดร้อน ไม่มีงบประมาณเพียงพอในการซื้อกายอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภาวะติดบ้านติดเตียง เป็นการให้ความช่วยเหลือบุคคลในครอบครัวให้สามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันเองได้ หรือช่วยให้ผู้ป่วยสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่าย ของประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ในการซื้อกายอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภาวะติดบ้านติดเตียงที่มีความจำเป็นต้องใช้ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงความร่วมมือกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังต่อไปนี้ เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ ให้ความร่วมมือ เป็นศูนย์ให้ยืม และจัดเก็บอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับกลุ่มติดบ้านติดเตียง ประชาสัมพันธ์ศูนย์ให้ยืม เพื่อให้ประชาชนทราบ ให้บริการประชาชนในการยืมอุปกรณ์ทางการแพทย์
รับบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ จัดหางบประมาณสำหรับการซ่อมแซมอุปกรณ์ทางการแพทย์ ดำเนินการรายงานผลการยืมอุปกรณ์ทางการแพทย์ เดือนละ 1 ครั้ง
ศูนย์ปันน้ำใจสาธุ มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กองทัพเรือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ให้ความร่วมมือให้การสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ สนับสนุนการให้ความรู้ด้านสุขภาพแก่กลุ่มติดบ้านติดเตียงและครอบครัว สนับสนุนการซ่อมแซมอุปกรณ์ทางการแพทย์ จัดหางบประมาณสำหรับการซ่อมแซมอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ สำหรับกลุ่มติดบ้านติดเตียง
บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ อาจมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม โดยได้รับความเห็นชอบจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งต้องแจ้งเป็นหนังสือให้อีกฝ่ายทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน เพื่อที่จะได้ร่วมกันพิจารณา การแก้ไขดังกล่าวให้จัดทำเป็นบันทึกข้อตกลงเพิ่มเติม แนบท้ายและลงนามโดยผู้มีอำนาจหรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจทั้งสองฝ่าย และให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของบันทึกข้อตกลงฉบับนี้
บันทึกข้อตกลงนี้ทำขึ้นไว้เป็น 2 ฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกันทุกประการ ทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความโดยตลอดแล้ว จึงได้ลงลายมือชื่อและประทับตราไว้เป็นหลักฐานสำคัญต่อหน้าพยาน และทั้งสองฝ่ายต่างยึดถือไว้ฝ่ายละ 1 ฉบับ
สมนึก เชื้อสนุก รายงาน
