กาฬสินธุ์-แม่กอดภาพลูกชายอดีตทหารแรงงานไทยเสียชีวิตที่อิสราเอล

กาฬสินธุ์-แม่กอดภาพลูกชายอดีตทหารแรงงานไทยเสียชีวิตที่อิสราเอล

 

ส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงาน และฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ รุดเยี่ยมให้กำลังใจ ครอบครัวนายสมควร พันธ์สะอาด อดีตทหารกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ อายุ 39 ปี แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากการถูกยิงที่ประเทศอิสราเอล สุดสะเทือนใจ พ่อ แม่ กอดภาพถ่ายลูกชายเหยื่อกระสุนฉนวนกาซา วอนส่วนราชการช่วยเหลือนำศพลูกชายบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ด้านจัดหางานจังหวัดเผย มีแรงงานไทยเดินทางไปขายแรงงานที่ประเทศอิสราเอล 230 คน อยู่ในเขตโซนอันตราย 121 คน คาดเสียชีวิต 1 คน


จากกรณี สื่อโซเชียลเผยแพร่ข่าว ประกาศแจ้งเตือน เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล คนไทยแรงงานไทย ในประเทศอิสราเอล วันที่ 8 ตุลาคม 2566 เวลา 13.30 น. โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ประชุมเร่งด่วนในการให้การช่วยเหลือแรงงานไทยที่ไปทำงานที่อิสราเอล โดยได้รับฟังข้อรายงานสถานการณ์จากอัครราชทูตแรงงานประจำประเทศอิสราเอล และรายงานสถานการณ์ให้การช่วยเหลือของแต่ละจังหวัด โดยอัครทูตไทยรายงานทราบว่ามีแรงงานไทยได้รับผลกระทบดังนี้

ได้รับบาดเจ็บ 8 คน เสียชีวิต 2 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน 11 คน แรงงานกาฬสินธุ์ที่ไปทำงานที่อิสราเอล เสียชีวิต 1 ราย ชื่อนายสมควร พันธ์สะอาด ถือหนังสือเดินทางเลขที่ AC3360352 ภูมิลำเนาอยู่ บ้านเลขที่ 127 หมู่ 3 บ้านหนองแวงใต้ ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เดินทางมาไปทำงานที่รัฐอิสราเอล เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 โดยเสียชีวิตจากการถูกยิงที่คับบซต์ Nahal 02 ติดชายแดนฉนวนกา เบื้องต้นมอบหมายให้ส่วนราชการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ไปเยี่ยมญาติของแรงงานเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และสร้างช่องทางติดต่อเพื่อความสะดวกในการช่วยเหลือ


ล่าสุด วันที่ 9 ตุลาคม 2566 ที่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 3 บ้านหนองแวงใต้ ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นางพนิดาเสถียรจิตร แรงงาน จ.กาฬสินธุ์ มอบหมายเสมือน ศรีพอ ผู้ช่วยแรงงาน จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนางวาสนา รัตนเวชสิทธิ ประกันสังคม จ.กาฬสินธุ์ นายศุภชัย แวงคำ นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สนง.จัดหางาน จ.กาฬสินธุ์ และส่วนราชการ สังกัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่เยี่ยม ให้กำลังใจครอบครัวนายกระบวน พันธ์สะอาด และนางหนูพา พันธ์สะอาด ซึ่งเป็นบิดา-มารดา นายสมควร พันธ์สะอาด แรงงานไทยที่เสียชีวิตที่ประเทศอิสราเอล โดยมีนางสุลาวรรณ ภูหวล ปลัดอาวุโส อ.เมืองกาฬสินธุ์ ผู้นำชุมชน และญาติผู้เสียชีวิต ร่วมให้ข้อมูล ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว และเพื่อนบ้านที่มาให้กำลังใจและติดตามข่าวสาร


นางหนูพา พันธ์สะอาด อายุ 63 ปี มารดานายสมควร กล่าวว่า นายสมควร ลูกชายอดีตเคยเป็นทหารกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ เมื่อประมาณ 18 ปีที่ผ่านมา หลังจากปลดประจำการไปทำงานขับรถรับจ้างที่กรุงเทพฯ ก่อนที่จะไปมีครอบครัวที่ จ.นครพนม ก่อนที่จะเดินทางไปทำงานเกษตร โดยเป็นคนงานในสวนกล้วยที่ประเทศอิสราเอล ซึ่งไปถูกต้องตามกฎหมาย ผ่านกรมแรงงานเมื่อวันที่ 9 พ.ย.65 ทั้งนี้ทราบว่ากู้เงินค่าเดินทางไปประมาณ 120,000 บาท สัญญา 5 ปี ได้เงินเดือนๆละ 80,000 บาท ส่งมาให้ครอบครัวที่ จ.นครพนม เดือนละ 58,000 บาท จึงเป็นเรี่ยวแรงหลักในการหาเงินเลี้ยงครอบครัวและชำระงวดรถ


นางหนูพากล่าวอีกว่า ก่อนที่จะได้ยินข่าวร้ายของลูกชายนั้น นายสมควรมักจะโทรศัพท์มาหาพ่อกับแม่บ่อยครั้งมาก ว่าสถานการณ์ที่ประเทศอิสราเอลไม่ค่อยปกติ ซึ่งตนก็ได้บอกลูกชายว่าให้เดินทางกลับบ้านเสีย กลัวลูกชายจะได้รับอันตราย ตนไม่อยากได้เงินหรอก อยากได้ลูกชายกลับคืนมามากกว่า แต่ลูกก็บอกว่าช่วงนี้เป็นไข้ ไม่สบาย หากหายจากอาการไข้แล้ว จะปรึกษานายจ้างอีกทีว่าจะขอเดินทางกลับไทย แต่แล้วเมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 04.00 น. ลูกสาวซึ่งเป็นพี่สาวนายสมควร ได้โทรศัพท์มาหาตนบอกว่าให้ทำใจดีๆ เพราะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นที่ประเทศอิสราเอล

ทั้งนี้ ทราบข่าวทางโซเชียล และเห็นภาพผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งผู้เสียชีวิตหนึ่งในนั้นลักษณะเหมือนลูกชายตน ซึ่งจำเสื้อและกางเกงที่สวมใส่ได้ อย่างไรก็ตาม หลังทราบข่าว ตนตกใจแทบช็อค ยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังไง ขอบคุณที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและหลายภาคส่วนลงพื้นที่มาเยี่ยมเยือน และให้กำลังใจ เพื่อหาแนวทางนำศพลูกชายกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด รวมทั้งแนวทางเยียวยาต่อไป

นายศุภชัย แวงคำ นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สนง.จัดหางาน จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับความชัดเจน แรงงานไทยชาวกาฬสินธุ์เสียชีวิตจริงหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดกับกงสุลไทยประจำประเทศอิสราเอลอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม สำหรับแรงงานไทยชาวกาฬสินธุ์ ที่ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลนั้น ซึ่งไปถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด จำนวน 230 คน อยู่โซนใต้ของประเทศที่มีเหตุการณ์ไม่สงบจำนวน 121 คน ส่วนใหญ่ทำงานด้านการเกษตร
นายศุภชัยกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการติดตามและให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศอิสราเอลนั้น ทั้งในส่วนการช่วยเหลือขอเดินทางกลับ หรืออื่นๆนั้นจะได้ดำเนินการอย่างเร่งรัดและรวดเร็ว ในส่วนผู้ที่เสียชีวิต ก็ได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ สำหรับแรงงานไทยที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บที่เดินทางไปถูกต้องตามกฎหมาย หากเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ จะมีกองทุนเพื่อให้การช่วยเหลือแรงงานไทยรองรับอยู่แล้ว

Related posts