เพชรบูรณ์-“เต้ มงคลกิตติ์” ลุยหาเสียงเพชรบูรณ์ ซื้อคืน ปตท.ลดค่าไฟ หนุนเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย
วันที่ 4 พฤษภาคม 2566 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วยแกนนำพรรคไทยศรีวิไลย์ ประกอบด้วยนางสาวภคอร จันทรคณา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ-รองหัวหน้าพรรค พล.ท.อัศวิน รัชฏานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ-รองหัวหน้าพรรค นายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ-รองหัวหน้าพรรค นายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรค นายสรกฤช จันทรคณา โฆษกพรรค นางสาวอริญรดา สาระชัย นายทะเบียนพรรค ดร.อนวรรช ศรีคำเงิน กรรมการบริหารพรรค นางสาวณัฐปภัสร์ วรธันย์ผาสุข นางสาวเยาวเรศน์ ชินภักดี เจ้าหน้าที่พรรค ลงพื้นที่อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เข้าสักการะศาลหลักเมืองเพชรบูรณ์
โดยมีผู้สมัคร สส.เขต 1 นายธนภาค บุ้งจันทร์ เขต 2 นายวิรัตน์ ป้องคำ เขต 3 นายยงค์วัฒน์ จันทร์คล้อย เขต 4 น.ส.ชัญพัช เฉลิมผา เขต 6 นางลาวัลย์ เนตรแสงสี ร่วมให้การต้อนรับ จากนั้นนำคณะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลหลักเมืองคู่บ้านคู่เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล เอาฤกษ์เอาชัยในการเลือกตั้งครั้งนี้ จากนั้น คณะพรรคไทยศรีวิไลย์ได้ขึ้นรถแห่ในเขตเทศบาลผ่านวงเวียนหอนาฬิกาเขาค้อ-เขาทราย และวงเวียนน้ำพุก่อนจะลงพบปะพ่อค้าแม่ค้าพี่น้องประชาชน และคนจ่ายตลาดในตลาดเทศบาล 1และ 2 พร้อมแจกโบว์ชัวร์พรรค โดยมีพ่อค้าแม่ขายให้ความสนใจ และเข้ามาทักทายพูดคุย และขอเซฟฟี่
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ กล่าวว่า ในโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ขณะนี้เท่าที่ทราบในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ มีการซื้อสิทธิขายเสียงกัน มีการเก็บบัตรประชาชน ตนมองว่าเป็นการเลือกตั้งที่ชั่วมาก เงินที่ซื้อสิทธิ์ซื้อเสียงเป็นที่โกงจากคาสิโนออนไลน์ บ่อน หวยและเงินคอรัปชั่นจากพลังงานหรือเงินจากการต่อสัญญาต่างๆ เงินเหล่านี้เป็นเงินทุจริตคอรัปชั่น เขาซื้อกันเขตละ 50-60 ล้าน บางเขต 100 ล้านมันคือภาษีของพวกเรา เขาโกงมา เขาก็มาซื้อพวกเรา อยากฝากพี่น้องประชาชนรับให้หมดทุกพรรค เค้าให้มาก็รับให้หมด แล้วไม่ต้องไปเลือกพวกมัน นั่นคือวิธีการกำจัดคนเลวให้พ้นจากการบริหารบ้านเมือง คือรับเงินทุจริตให้หมด รับเงินแล้วใช้ให้เร็วและขอเพิ่มให้ต้องการให้คนซื้อเสียงให้แพ้การเลือกตั้ง ให้ล้มละลาย ให้เจ๊ง สักพักคดีจะติดตามมา ต้องติดคุกแล้วเราไปเลือกคนที่ไม่ซื้อเสียง ถือเป็นการปราบคนไม่ดีและส่งเสริมให้คนดีเข้ามาบริหารบ้านเมือง กกต.มีกำลังน้อย คงตรวจไม่ทัน ดังนั้นวิธีการแก้เผ็ดนักการเมือง คือรีดเอามาให้หมด รีดจนมันจนหมดเลย ฝากไว้ด้วยครับ
ส่วนเรื่องไฟฟ้าแพง ก็เพราะรัฐบาลยุคนี้ ไปทำสัญญาซื้อไฟฟ้ากับเอกชน 18,000 เมกะวัตต์ ทั้งที่ประเทศไทยใช้ไม่เกิน 33,000 เมกะวัตต์ ตอนนี้ไฟสำรองมี 51,000 เมกะวัตต์ ทำให้ค่า FT เพิ่มขึ้นเกือบ 1 บาทต่อหน่วย ประเทศไทยมี 12 เดือน มีหน้าร้อน 3-4 เดือน นอกนั้นก็เป็นหน้าฝนกับหน้าหนาว ไม่รู้จะสำรองไว้ทำไมมากมาย ถ้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นรัฐบาลประชุมนัดแรก จะกำหนดยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับเอกชนทันที และออกเป็นพระราชกำหนด และจะทำทันทีอีกคือซื้อ ปตท.คืน ปตท.ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำไฟฟ้าแพง ซึ่งหากเราทำตามนี้จะทำให้ค่าไฟฟ้าไม่เกิน 4 บาทต่อหน่วย แต่ถ่าเราใช้วิธีการอุดหนุนจะทำให้เราสูญเสียงบประมาณปีละ 6 แสนบาท
นอกจากนี้พรรคจะผลักดันให้ออกกฏหมายนำสิ่งผิดกฏหมายสีเทาให้เป็นสีขาวแล้วนำภาษีมาดูแลพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นทำหวยใต้ดินให้มาอยู่บนดิน เพื่อเอามาดูแลคนชรา คนละ 5 พันต่อเดือน การเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษคาสิโนเอาเงินคนต่างชาติมาดูแลคนในประเทศ ดูแลคนจน คนพิการ ทหารผ่านศึก อสม. อปพร.เดือน 3 พันและที่สำคัญพรรคไทยศรีวิไลย์ จะไม่ขอยกเลิก มาตรา 112 จะไม่แก้ไขและไม่ยกเลิกด้วย และทางพรรคจะรณรงค์ใครที่ยกเลิกมาตรา 112 ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ถือเป็นการคิดอ่านเป็นกบฏต่อราชอาณาจักรไทยและทางพรรคจะต่อต้านให้ถึงที่สุด
มนสิชา คล้ายแก้ว/วิริทธ์พล หิรัญรัตน์