นครนายก – จับตามอง 2 ตระกูลใหญ่ บุญมา จากฝากฝั่งพรรคเพื่อไทย และกิตติธเนศวร จากฝั่งภูมิใจไทยเขต1 เมือง – ปากพลี

นครนายก – จับตามอง 2 ตระกูลใหญ่ บุญมา จากฝากฝั่งพรรคเพื่อไทย และกิตติธเนศวร จากฝั่งภูมิใจไทยเขต1 เมือง – ปากพลี

ซึ่งในสนามเลือกตั้งจังหวัดนครนายกนั้นถูกจับตามองเป็นพิเศษคือเขต 1 ซึ่งเป็นผู้สมัครหน้าใหม่กันทั้งคู่โดยเป็นศึกของ 2 ตระกูลใหญ่ตระกูล “บุญมา”และตระกูล “กิตติธเนศวร”ในพื้นที่เขต 1 อ.เมือง – ปากพลี โดยทางด้านนายปิยวัฒน์ กิตติธเนศวร สังกัดพรรคภูมิใจไทย ผู้สมัครได้หมายเลข 1 และ พล.ต.ต.สุรพล บุญมา สังกัดพรรคเพื่อไทย ผู้สมัครได้หมายเลข 3
ในพื้นที่จังหวัดนครนายก การเลือกตั้งครั้งนี้แบ่งเป็น 2 เขต จากเดิมมีเพียงเขตเดียว ซึ่ง ส.ส.เก่า นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร (เสี่ยอ๋า) เดิมสังกัดพรรคเพื่อไทย การเลือกตั้งครั้งนี้ย้ายพรรคเข้ามาสู่ภูมิใจไทย ลงเลือกตั้งเขต 2 อำเภอบ้านนาและองครักษ์ ซึ่งสู้กับหลานชายตัวเอง นายเกรียงไกร กิตติธเนศวร สังกัดพรรคเพื่อไทย

แต่สนามที่ดุเดือดคือเขต 1 อำเภอเมืองนครนายกและปากพลี ซึ่งมีผู้สมัครอย่าง พล.ต.ต.สุรพล บุญมา ผู้การแดง อดีตรองผู้บังคับการตำรวจภูธรนครนายก ซึ่งประกาศเปิดตัวเข้าสู่บ้านใหญ่ พรรคเพื่อไทย สู้ศึกกับลูกชายอดีต ส.ส.นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร (เสี่ยอ๋า) คือ นายปิยวัฒน์ กิตติธเนศวร สังกัดพรรคภูมิใจไทย

ด้าน พล.ต.ต.สุรพล บุญมา (ผู้การแดง) มีการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี สำหรับการสู้ศึกการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยคนในพื้นที่จะรู้ดีในเรื่องที่โดดเด่นจากการช่วยเหลือ ซื้อรถพยาบาลรับ-ส่งผู้ป่วยโควิด19 เป็นคนแรกของนครนายกและมอบถุงปันสุข (ถุงยังชีพที่มีเครื่องอุปโภคบริโภคสำหรับกักตัว14วัน) รวมถึงการเดินทางของชาวนครนายกที่ต้องการกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิดตามจังหวัดต่างๆ แบบไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และยังโดดเด่นเรื่องการช่วยเหลือผู้ยากไร้มาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เออรี่ออกมาจากตำรวจที่ทำงานมากว่า 27 ปี ก็ได้ปูทางบนเส้นทางนักการเมืองอย่างเต็มตัวโดยฐานเสียงมาจากนามสกุล”บุญมา” ซึ่งเป็นครอบครัวนักการเมือง พี่ชายคนแรกเป็นอดีต สจ. พี่ชายคนที่สอง เป็นสว. และตนเองก่อนจะรับราชการ เคยเป็นอดีต สจ.2 สมัย ในปี 2532-2536 ในการเลือกตั้งใหญ่และเลือกตั้งซ้อม

ด้านนายปิยวัฒน์ กิตติธเนศวร (อ๋อง) ลูกชาย ส.ส.นครนายก ซึ่งดูแลธุรกิจรับเหมาทำถนนของครอบครัว ซึ่งเป็นการลงเลือกตั้งครั้งแรก ในนามพรรคภูมิใจไทย โดยฐานเสียงได้คะแนนจากคุณพ่อคือ เสี่ยอ๋า โดยอ๋อง ได้มีการปูทางในเส้นทางการเมือง โดยเรื่องที่โดดเด่น คือซื้อรถพยาบาลส่งผู้ป่วยโควิด 19 ให้การช่วยเหลือพี่น้องที่ยากไร้ และ ช่วยเหลือคนที่ติดโควิด ในครั้งที่นครนายก วิกฤติ

โดยภาพรวมนั้น สนามเรื่องตั้งของนครนายก ปีนี้ค่อนข้างดุเดือนและถูกจับตาคือ ผู้การแดงและเสี่ยอ๋องและตัวสอดแทรกแซกอย่างนายสมพงษ์ สายทอง คนในพื้นที่มอง ว่าเป็นฝ่ายแดงกับน้ำเงิน มีการสู้กันแบบหมัดต่อหมัด บ้านใหญ่ทั้ง 2 บ้าน คือบ้าน “บุญมา”และ บ้าน”กิตติธเนศวร” ต่อจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนชาวจังหวัดนครนายกว่าจะเลือกใครที่ผ่านมาใครมีผลงานและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่มากกว่ากันอยู่ที่ชาวจังหวัดนครนายกจะเป็นผู้เลือก

อีก 1 สนามในเขต 2 อ.บ้านนา – อ.องครักษ์ ศึกสายเลือดตระกูล”กิตติธเนศวร”ระหว่าง นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร (เสี่ยอ๋า) อดีต ส.ส.นครนายก จากพรรค ภูมิใจไทย ได้หมายเลข 1 ต้องชนกับนายเกรียงไกร กิตติธเนศวร พรรคเพื่อไทย ได้หมายเลข 5 เป็นศึกระหว่างอากับหลานตระกูล”กิตติธเนศวร”ในเขตที่ 2 จ.นครนายก เป็นพื้นที่ อ.บ้านนาและอ.องครักษ์ แต่เดิมมีผู้สมัครจาก 2 พรรค แต่นามสกุลเดียวกัน คือ นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร หรือ “เสี่ยอ๋า” จากพรรคภูมิใจไทย ลงชิงชัยกับนายเกรียงไกร กิตติธเนศวร จากพรรคเพื่อไทย บุตรชายของ “เสี่ยแหมะ” สิทธิชัย กิตติธเนศวร อดีต ส.ส.นครนายก แต่เดิม พื้นที่นี้ นายวุฒิชัยเป็นเจ้าของเก้าอี้ แต่เมื่อย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย บวกกับกระแสแลนด์สไลด์ ของพรรคเพื่อไทย ทำให้นายวุฒิชัย ต้องออกแรงสู้กับผู้เป็นหลานอย่างค่อนข้างหนักหน่วง

สังเวียนเลือกตั้งส.ส.นครนายกเขต 2 จึงน่าจะเป็นการชิงดำกัน
ระหว่างนายวุฒิชัย จากพรรคภูมิใจไทย ผู้เป็นอาและนายเกรียงไกร จากพรรคเพื่อไทย ผู้เป็นหลาน

 

สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่// ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

Related posts