ปลัด ทส. “จตุพร บุรุษพัฒน์” เป็นประธานเปิดสัมมนาเพื่อขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติและแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ที่กรมป่าไม้จัดขึ้น เชิญเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติจาก 20 หน่วยงาน เข้าร่วมสัมมนา มุ่งสร้างความเข้าใจทั้งรายละเอียด แนวทางการขับเคลื่อน สู่ความสำเร็จในการปฏิบัติ
วันนี้ (2 พ.ค. 66) เวลา 10.00 น. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกทส.) ได้เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนา “เพื่อขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติและแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติให้เกิดผลสัมฤทธิ์”และ นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวรายงาน โดยมีผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บริหารกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านนโยบายและแผนของหน่วยงานผู้รับผิดชอบการขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติและแผนแม่บทพัฒนาการแห่งชาติ จาก 20 หน่วยงานเข้าร่วม รวม 150 คน
ณ ห้องเมจิก 2 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร พร้อมจัดให้มีการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live กรมป่าไม้ หัวข้อสำคัญการประชุมสัมมนาที่กรมป่าไม้จัดขึ้นในครั้งนี้ประกอบด้วย การบรรยาย แนวทางการขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติและแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติสู่การปฏิบัติ โดย ผู้ทรงคุณวุฒิด้านทรัพยากรป่าไม้ คณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ประธานอนุกรรมการจัดทำร่างนโยบายป่าไม้แห่งชาติและร่างแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติ และการอภิปรายการดำเนินงานขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติและแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติสู่การปฏิบัติภายใต้ภารกิจของแต่ละหน่วยงาน
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า การประชุมสัมมนาในวันนี้ จะช่วยให้การขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติ และแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติเกิดผลสัมฤทธิ์ เพื่อให้ประเทศไทยได้พื้นที่ป่าไม้ที่เหมาะสมกับความสมดุลของระบบนิเวศ และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนด้วยเป็นกรอบการขับเคลื่อนการป่าไม้ในภาพรวมของประเทศ แม้ว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
จะเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ แต่การขับเคลื่อนนโยบายและแผนดังกล่าว ให้เกิดการบริหารจัดการป่าไม้ทั้งระบบ มีเอกภาพและยั่งยืน เกิดดุลยภาพกับการพัฒนา ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมสิ่งแวดล้อม และความมั่นคงของประเทศ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเชื่อมโยงและบูรณาการ การดำเนินงานร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“การที่กรมป่าไม้จัดประชุมสัมมนาในครั้งนี้ จึงนับเป็นการสร้างโอกาสสำคัญที่ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านนโยบายและแผนของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีความเข้าใจที่สอดคล้องตรงกัน ทั้งในส่วนของรายละเอียด และแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติและแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติสู่การปฏิบัติ รวมทั้งมีโอกาสร่วมอภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นข้อเสนอแนะในประเด็นการดำเนินงานสู่การปฏิบัติภายใต้ภารกิจของแต่ละหน่วยงาน ตลอดจนสร้างการบูรณาการการดำเนินงาน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติและแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติ ให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย การมีพื้นที่ป่าไม้ทั่วประเทศอย่างน้อยในอัตราร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ ประกอบด้วย ป่าอนุรักษ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 และป่าเศรษฐกิจและป่าชุมชนไม่น้อยกว่าร้อยละ15 ของพื้นที่ประเทศภายในปี พ.ศ. 2580” นายจตุพร กล่าว
ด้านนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า นโยบายป่าไม้แห่งชาติ เป็นกรอบใหญ่ในการขับเคลื่อนการป่าไม้ของประเทศ และถ่ายทอดไปสู่แผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติในทุกระดับ ทั้งยุทธศาสตร์ ภารกิจ และพื้นที่ อันจะทำให้การพัฒนาการป่าไม้ของชาติ สามารถดำเนินการได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งหลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 เห็นชอบนโยบายป่าไม้แห่งชาติ และมติเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2565 เห็นชอบแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติแล้ว คณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ หรือ คปช. ได้มีการเผยแพร่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบและดำเนินการถ่ายทอดนโยบายป่าไม้แห่งชาติ และแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติสู่แผนของหน่วยงาน และปฏิบัติตามแผนให้เกิดผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานต่อ คปช. ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติ และแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติสู่การปฏิบัติ ตามภารกิจของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“กรมป่าไม้ ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการของ คปช. ซึ่งมีหน้าที่อำนวยการและสนับสนุนงานด้านวิชาการ ได้จัดการประชุมสัมมนาฯ ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาฯ มีความรู้ความเข้าใจในนโยบายป่าไม้แห่งชาติและแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติ และมีความรู้ความเข้าใจในแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายป่าไม้แห่งชาติ และแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติสู่การปฏิบัติ ภายใต้ภารกิจของแต่ละหน่วยงานมากยิ่งขึ้น และเพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาฯ ได้อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะสู่การปฏิบัติร่วมกัน” อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว