สระบุรี./หนุ่มคลั่งรักสักใบทะเบียนสมรสที่แขน บอกให้โลกรู้ว่ามีเมียแล้ว
วันที่ 30 มกราคม 2566 จากกรณีที่หน้าเพจ ที่นี่..แก่งคอย โดยช่างชาติ สักลาย ได้โพสต์ข้อความลงบนหน้าเพจว่า “ขอบคุณที่ใช้บริการครับ” ที่ร้านสักลายแก่งคอย สระบุรี ช่างชาติ ซึ่งในโพสต์จะมีรูป ลายสักใบทะเบียนสมรส อยู่บนท่อนแขนขวา ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงความน่ารัก และใจกล้าของพ่อบ้านชาวสระบุรี แสดงถึงความเชื่อมั่นในความรัก และแสดงออกถึงความรักที่มีต่อภรรยา พร้อมที่จะประกาศให้โลกรู้ว่าตนเองนั้นมีเมียแล้ว
วันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังร้านสักแก่งคอย สระบุรี เพื่อติดต่อขอพบกับ นายเจนณรงค์ หรือบอล วุ่นคง อายุ 34 ปี เจ้าของแขนลายสักใบทะเบียนสมรถ พร้อมด้วย นางสาวรำพึง หรือจอย คูณขุนทด อายุ 45 ปี พร้อมโชว์ลอยสักรูปใบทะเบียนสมรสบนท่อนแขนขวา อย่างภาคภูมิใจ โดยทั้งคู่แต่งงานอยู่กินกันมา 8 ปีแล้ว และจดทะเบียนสมรส กันเมื่อ วันที่ 15 กรกฎาคม 2557 มีลูกชายด้วยกัน 1 คนวัย 7 ขวบ
ทางด้านนายเจนณรงค์ หรือบอล วุ่นคง เล่าว่าตนเอง ปกติตนเองเป็นคนชอบลายสักอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าภรรยาองตนจะอายุมากกว่าตนถึง 11 ปีตนก็อยากจะสักรูปใบทะเบียนสมรสไว้ที่แขน เพื่อให้ภรรยาองตนนั้นรู้ว่าตนเองนั้นมี เขาอยู่เพียงคนเดียว นอกจากเขาแล้วไม่มีใครอีก ซึ่งการสักในครั้งนี้เพื่อเป็นของขวัญให้ภรรยา เป็นการแสดงออกถึงความรัก รับวันวาเลนไทน์ ที่จะถึงในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ และเป็นการให้ภรรยาเชื่อในตัวเขาว่ามีภรรยาคนเดียว โดยส่วนตัวแล้วไม่รู้สึกว่าอายที่สักใบทะเบียนสมรสไว้ที่แขน ตนเองจดทะเบียนสมรสกับภรรยามา 8 ปีแล้ว ซึ่งตนคิดว่าภรรยาของตนก็จะสักตามตนเอง แต่คงต้องรอก่อน ที่สักแขนขวาเนื่องจากว่าเป็นคนถนัดขวา ส่วนแขนซ้ายคิดว่าจะไม่สักใบหย่าแน่ๆ ตนเองครองรักกับภรรยามา 10 ปีแล้ว
ทางด้านนางสาวรำพึง หรือจอย คูณขุนทด (ภรรยา) เล่าว่า ตนเองรู้สึกดีใจ ที่สามีของตนเองนั้นกล้าทำ และไม่อาย ซึ่งตนก็คิดว่าจะสักคู่กัน แต่คงจะต้องรอก่อน
ส่วนนายวีระชาติ หรือช่างชาติ โพธิราช ช่างสัก เล่าว่า ตนเองตั้งแต่เป็นช่างสักมาเพิ่งที่จะได้สักรูปใบทะเบียนสมรส ให้กับบอล เป็นคนแรก ยังไม่เคยสักให้ใครมาก่อน ซึ่งการสักในครั้งนี้ใช้เวลาสักไป 8 ชั่วโมง เนื่องจากว่าเป็นงานที่ละเอียดมาก ซึ่งก่อนสักก็จะต้องมีการลอกแบบก่อน จากนั้นก็เอาทาบไว้ที่แขน จากนั้นก็สักไปตามลาย โดยจะเก็บทุกลายละเอียด ซึ่งตนรู้สึกภูมิใจกับผลงานที่ออกมา เมื่อเห็นลูกค้ายิ้ม และถูกใจ ส่วนสีที่ใช้สักจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากเป็นสีที่ได้มาตรฐาน และจะเน้นเรื่องความสะอาดเป็นหนึ่ง ซึ่งการสักจะอยู่ติดตัวไปตลอด ซึ่งรูปที่สักไปจะเด่นชัดขึ้นก็ต่อเมื่อแผลที่สักไปลอกออกภาพก็จะชัดขึ้น ส่วนตนเองรู้สึกดีใจกับสองสามีภรรยา ที่ความลับถูกเปิดเผยกัน และครั้งแรกว่าจะสักทั้ง 2 คนแต่ขอให้ฝ่ายชายได้ทดลองดูก่อน ส่วนฝ่ายหญิงเอาไว้ครั้งต่อไป
/ดำรงค์ ชื่นจินดา /รายงาน
