รมช.สาธารณสุข เปิดโครงการรวมพลัง อสม.มอบของขวัญปีใหม่ ใส่ใจผู้สูงอายุ เขตสุขภาพที่ 6

รมช.สาธารณสุข เปิดโครงการรวมพลัง อสม.มอบของขวัญปีใหม่ ใส่ใจผู้สูงอายุ เขตสุขภาพที่ 6

วันที่ 28 มกราคม 2566 ที่โรงเรียนอนุบาลนานาชาติตากสินระยอง อ.เมืองระยอง จ.ระยอง ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเปิดโครงการรวมพลัง อสม.มอบของขวัญปีใหม่ ใส่ใจผู้สูงอายุ เขตสุขภาพที่ 6 โดยทำพิธีเปิดพร้อมกันกับเขตสุขภาพอื่น ๆ ทั่วประเทศผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานในพิธีเปิดที่จังหวัดนครราชสีมา

ดร.สาธิต กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสำคัญกับผู้สูงวัย โดยในปี พ.ศ. 2566 จะเป็นปีที่ประเทศไทยจะเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงวัยโดยสมบูรณ์ กระทรวงสาธารณสุขจึงประกาศให้ปี พ.ศ. 2566 เป็น “ปีแห่งสุขภาพ สูงวัยไทย” และมีนโยบายมอบการบริการ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์เพื่อการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ อาทิ การคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุโดยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและเจ้าหน้าที่ จัดให้โรงพยาบาลทุกระดับมีคลินิกผู้สูงอายุ สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการดูแลรูปภาพของผู้สูงอายุ ทั้งแว่นตา ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ฟันปลอม รากฟันเทียม

 

ดร.สาธิต กล่าวต่ออีกว่า จากการรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย ปี พ.ศ. 2564 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 12.5 ล้านคน และคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนประชากรผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้รัฐบาล ต้องปรับแผนงานรองรับสังคมผู้วัย เพื่อให้เกิดการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ การรณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงการเป็นสังคมสูงวัย การสร้างเสริมทัศนคติที่ดีต่อผู้สูงอายุ การพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่จะทำงานด้านผู้สูงอายุให้เพียงพอ

รวมไปถึงการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุให้ได้รับบริการอย่างเหมาะสม โดยการดำเนินการเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่มุ่งเน้นให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบและทั่วถึง ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้ทั้งครอบครัวมีพลังในการดำเนินชีวิตและใช้ความเข้มแข็งทางสุขภาพเป็นต้นทุนในการสร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจของประเทศ อันจะนำไปสู่เป้าหมาย “ประชาชนแข็งแรง เศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง ประเทศไทยแข็งแรง” เพราะเมื่อผู้สูงอายุได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ลูกหลานในครอบครัวก็ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง

Related posts