“อรรถพล” ลุยงานทันที เน้นโปร่งใส ตรวจสอบได้ ยืนยันทำงานเต็มที่
26 มกราคม 2566 เวลา 08.30 น. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าสักการะสิ่งศักดิ์และถวายเครื่องราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ รัชกาลที่ 5 เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเข้ารับตำแหน่งรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
เวลา 9.00 น. นายอรรถพล เจริญชันษา ได้ ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนถึงการเข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
นายอรรถพล กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวราวุธ ศิลปอาชา ได้มอบหมายให้มาช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในกรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่สามารถทำงานได้เลย จึงใช้อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการออกคำสั่งดังกล่าว เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและต่อเนื่องในการทำงาน
สำหรับนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการ จะเป็นการปฏิบัติงานร่วมกันของผู้บริหารและเจ้าหน้าทร่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งมีเรื่องที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนพร้อมกัน 8 เรื่อง คือ การปรับปรุง แก้ไขการแต่งตั้งโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรมโดยจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเปลี่ยนแปลงแก้ไขซึ่งผมจะเซ็นคำสั่งนี้เป็นคำสั่งแรก การทำงานอย่างโปร่งใส แผนการทำงาน ต้องมีความโปร่งใสถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้ ยกระดับความเข้มข้นในการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ ป้องกันปรามปรามการบุกรุกพื้นที่ และยกระดับชุดปฏิบัติการให้มีความเข้มแข็ง
การจัดการที่ดินทำกิน ภายใต้ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และ พ.ร.บ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 เพื่อประโยชน์ต่อการอนุรักษ์ และเพื่อประโยชน์ต่อประชาชน การป้องกันไฟป่า เพิ่มการปฏิบัติอย่างเต็มที่ในการป้องกันและเฝ้าระวังไฟป่า ร่วมกับเครือข่ายประชาชน โครงสร้างการทำงานของกรมอุทยานฯ โดยให้แต่ละพื้นที่บริหารเชิงพื้นที่มากขึ้นในรูปแบบ Single Command ปรับบุคลากรให้มีความเหมาะสมในการปฏิบัติงาน
การสร้างขวัญกำลังใจในการทำงาน ต้องร่วมกันสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้ดี ร่วมกันทำสิ่งที่ดี สร้างความมั่นใจให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในกระบวนการทำงานของกรมอุทยานฯ รวมถึง เข้ามาดูแลสวัสดิการและค่าตอบแทนของผู้พิทักษ์ป่าให้จริงจังมากขึ้น โดยเฉพาะเงินช่วยเหลือการลาดตระเวน และสุดท้าย ผลักดันกองทุนจัดการปัญหาช้างป่า เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่าและช่วยเหลือช้างป่าอย่างรวดเร็ว