นครปฐม-ตำรวจภูธรภาค 7แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ภายใต้แผนยุทธการ “พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี”
และ กวดขันจับกุมมาตรการ 10 ข้อหาหลัก เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ 2566 ภายใต้แผนยุทธการ “พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี” ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 ทั้ง 8 จังหวัด 104 สถานี พร้อมของกลางจำนวนมาก
วันที่ 4 มกราคม 2566 ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 7 ชั้น 2 ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 พร้อมด้วย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม สมุทรสาคร ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม กาญจนบุรี เพชรบุรี และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ตลอดจนผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมให้ห้วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ภายใต้แผนยุทธการ “พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี” ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 ทั้ง 8 จังหวัด 104 สถานี ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 65 –30 ธ.ค.65 (ระยะเวลา 10 วัน) พร้อมของกลางจำนวนมาก
ตามนโยบายของรัฐบาล ที่มีความห่วงใยประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวและประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาของตน อาจมีผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสก่ออาชญากรรม ก่อให้ปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อการเดินทางสัญจรของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน จึงบัญชาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรม และกวดขันจับกุม 10 มาตรการหลักเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน ให้บังเกิดผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ
ตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมสนองรับนโยบาย ควบคุมการปฏิบัติ และสั่งการให้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด 8 จังหวัด และผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 บูรณาการการทำงานกับหน่วยงานในพื้นที่ ระดม กวาดล้างอาชญากรรมในห้วงดังกล่าว และกวดขันจับกุม 10 มาตรการหลักเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนในห้วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ ที่พี่น้องประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา (ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.65 – 2 ม.ค.66) โดยมีผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมภายใต้แผนยุทธการ “พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี” (ระหว่างวันที่ 20 – 29 ธ.ค.65) เน้นเป้าหมายความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน ยาเสพติด พรบ.คนเข้าเมือง และบุคคลหมายจับ เพื่อป้องกันเพื่อลดโอกาสมิให้ผู้ไม่หวังดีก่ออาชญากรรมในช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ดังนี้
1. ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน จับกุม 584 ราย ผู้ต้องหา 584 คน
2. ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จับกุม 1,977 ราย ผู้ต้องหา 1,993 คน
3. จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จับกุม 789 หมาย ผู้ต้องหา 786 คน
4. ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ จับกุม 2,312 ราย ผู้ต้องหา 2,326 คน
5. ความผิดเกี่ยวกับการพนัน จับกุม 474 ราย ผู้ต้องหา 552 คน
6. ความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ จับกุม 8 ราย ผู้ต้องหา 8 คน
พร้อมด้วยของกลาง ดังนี้
1. อาวุธปืน รวม 503 กระบอก แบ่งเป็น
1.1 อาวุธปืน ไม่มีทะเบียน 420 กระบอก 1.2 อาวุธปืน มีทะเบียน 83 กระบอก
2. วัตถุระเบิด 48 ลูก
3. เครื่องกระสุนปืน 954 นัด
4. ยาเสพติด จำนวนมาก แบ่งเป็น
– ยาบ้า 46,020 เม็ด – ยาไอซ์ 2,515 กรัม – เฮโรอีน 7.22 กรัม – ยาอี 11 เม็ด – ยาเค 5.98 กรัม
ผลการกวดขันจับกุม 10 มาตรการหลัก เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนในห้วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 65 – 2 ม.ค. 66 มีผลการจับกุม จำนวน 27,106 ราย ผู้ต้องหา 27,106 คน แบ่งเป็น 1. ไม่สวมหมวกนิรภัย 6,501 ราย, 2. มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย 2,182 ราย ,3. เมาสุราขณะขับขี่ 2,105 ราย,4. ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 1,990 ราย, 5. ไม่มีใบขับขี่ 8,163 ราย , 6. ขับรถเร็วเกินกำหนด 3,793 ราย, 7. ฝ่าฝืนสัญญาณไฟ 578 ราย, 8. ขับรถย้อนศร 1,312 ราย, 9. แซงในที่คับขัน 206 ราย, 10. ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ 276 ราย
โอกาสนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนและพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ตำรวจภูธรภาค 7 จะมุ่งมั่นทำงานตามวิสัยทัศน์ของ ผบช.ภ.7 ที่ว่า “ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” โดยจะทำการปราบปรามอาชญากรรมในทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธาและมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และเพื่อให้นโยบายของรัฐบาล รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บรรลุวัตถุประสงค์สูงสุด