พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ และมอบที่ดินทำกินให้ชาวกาฬสินธุ์ พร้อมสั่งเร่งจัดการน้ำรับมือช่วงแล้ง เผยมีว่าที่ผู้สมัครส.ส.มาหาอยู่แล้ว
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 14 ธันวาคม 2565 ที่ห้องประชุมโสมพะมิตร ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ ธนาคมา นุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสันติ พร้อมพัฒน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พล.อ.ชัยชาญ ช้าง มงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ลงพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ติดตามความก้าวหน้าการบริหารจัดการน้ำของจังหวัด และมาตรการรองรับฤดูแล้งปี 2565/2566 โดยมีนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานสถานการณ์ และให้การต้อนรับ
โดยพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายขับเคลื่อนการพัฒนาแหล่งน้ำและการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชนโดยเฉพาะน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค วางแผนการบริหารจัดการน้ำอย่างรอบคอบ และเตรียมการรองรับสถานการณ์หากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง โดยมอบหมายให้ สทนช. บูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานดำเนินการตาม 10 มาตรการรองรับฤดูแล้ง 2565/2566 ให้เป็นไปตามแผน และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2566
ทั้งนี้ยังมอบหมายให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดดำเนินการเตรียมการป้องกันและบรรเทาปัญหาพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ หรือเป็นพื้นที่เสี่ยงไม่ให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบ โดยเน้นย้ำทุกหน่วยงานประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนทราบถึงการดำเนินงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมั่นใจ พร้อมสนับสนุนและร่วมมือกับภาคราชการในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำและมิติอื่น ๆ ควบคู่กัน
จากนั้นพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์บนที่ดินของรัฐเป็นการชั่วคราวตามนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจน ให้แก่ประชาชนชาวกาฬสินธุ์ ที่ หอประชุม จ.กาฬสินธุ์ ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ โดยได้มอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐเป็นการชั่วคราว แปลง “หนองผัวเมียสาธารณประโยชน์” ตำบลดอนสมบูรณ์ อำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กรณีออกหนังสืออนุญาตให้กับทายาทโดยธรรมของผู้รับอนุญาตรายเดิมซึ่งถึงแก่กรรม จำนวน 14 ราย และแปลง “โสกหมูสาธารณประโยชน์” ตำบลเขาพระนอน อำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กรณีต่ออายุหนังสืออนุญาตให้ผู้รับอนุญาตรายเดิม จำนวน 50 ราย รวมทั้งสิ้น 64 ราย
ทั้งนี้จังหวัดกาฬสินธุ์ มีการดำเนินการโครงการบริหารจัดการใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ที่มีการบุกรุก เพื่อขจัดความยากจน และพัฒนาชนบท ในพื้นที่ 7 อำเภอ จำนวน 18 โครงการ รวมทั้งสิ้น 2,938 แปลง โดยมีการอนุญาตให้ต่ออายุหนังสืออนุญาตครั้งที่ 1และครั้งที่ 2 แล้ว จำนวน 18 โครงการ รวมทั้งสิ้น 2,350 แปลง ดำเนินการแจกหนังสืออนุญาตฯ ไปแล้ว จำนวน 2,217 แปลง และออกหนังสืออนุญาตฉบับใหม่ให้กับทายาทโดยธรรมของผู้รับอนุญาตรายเดิมกรณีผู้รับอนุญาตรายเดิมถึงแก่กรรม จำนวน 2 โครงการ รวมทั้งสิ้น 24 แปลง ดำเนินการแจกหนังสืออนุญาตฯ ไปแล้ว จำนวน 10 แปลง สร้างความยินดีแก่ประชาชนชาวกาฬสินธุ์ที่มารับมอบการใช้ประโยชน์ในที่ดินเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับปัญหาสำคัญของ จ.กาฬสินธุ์ คือ เรื่องน้ำ การขาดแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อการเกษตร และการอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะในพื้นที่นอกเขตชลประทานกว่า 3.76 ล้านไร่ หรือกว่าร้อยละ 86.64 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด ปัจจัยเรื่องน้ำ ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ได้แก่ ปัญหาความยากจน ปัญหา ด้านรายได้จากราคาผลผลิตการเกษตร และปัญหาเชิงศักยภาพการผลิตของเกษตรกร ดังนั้นจึงได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาจังหวัด โดยมุ่งสร้างความ “มั่งคั่งด้วยเกษตรปลอดภัย ท่องเที่ยววิถีใหม่ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” โดยได้ จัดทำโครงการที่ต้องดำเนินการในระยะเร่งด่วน หรือ Flagship Projects เพื่อพัฒนาและ แก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์อย่างเห็นผลและตรงเป้า
โดยเฉพาะโครงการด้านแหล่งน้ำ เช่น โครงการก่อสร้างอาคารบังคับน้ำห้วยปากเปลือยน้อย โครงการประตูระบายน้ำพนังกั้นน้ำชีพัฒนาแก้มลิงบ้านนาสีนวล โครงการก่อสร้างฝาย ลำห้วยม่วง โครงการขุดลอกคลองลำห้วยพะยัง โครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบส่งน้ำ และการปรับปรุงอาคารระบบน้ำล้นอ่างเก็บน้ำห้วยผึ้ง ซึ่งหากดำเนินการ แล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดกาฬสินธุ์และลด ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาเมืองต่างๆ ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จจะเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของจังหวัดให้เกิดการขยายตัวมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ในส่วนสถานการณ์น้ำ ในอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ โดยภาพรวมมีปริมาณน้ำที่ค่าเฉลี่ย ร้อยละ 88.29 คาดการณ์ว่า พื้นที่ในเขตชลประทานจะมีน้ำเพียงพอต่อการเกษตรและอุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้ง สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งนั้น จ.กาฬสินธุ์มีพื้นที่เสี่ยงมาก 2 อำเภอ 2 ตำบล 15 หมู่บ้าน พื้นที่เสี่ยงปานกลาง 5 อำเภอ 9 ตำบล 20 หมู่บ้าน และพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง 12 อำเภอ 37 ตำบล 159 หมู่บ้าน ซึ่งจังหวัดได้เตรียมความพร้อมตามมาตรการรองรับ ฤดูแล้ง 65/66 รวม 10 มาตรการ ทั้งด้านน้ำต้นทุน ด้านความต้องการใช้น้ำ และด้านการ บริหารจัดการน้ำ
อย่างไรก็ตามหลังจากมอบอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์บนที่ดินของรัฐเสร็จ พลเอกประวิตรได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงวัตถุประสงค์และประโยชน์ของการมอบ ก่อนที่ช่วงท้ายผู้สื่อข่าวได้ถามว่า “วันนี้มาดูตัวผู้สมัครด้วยหรือเปล่า” ซึ่งพลเอกประวิตร ตอบว่า ดูอยู่แล้ว เค้าก็มาหาอยู่แล้ว ว่าที่ผู้สมัครเค้าก็มาหาอยู่แล้ว จะไปดูตัวอะไร
จากนั้นเวลา 12.20 น.พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปรับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรม บูเลอวาร์ด ในพื้นที่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ก่อนที่ช่วงเวลา 14.30 น.จะนั่งเฮลิคอปเตอร์ย้อนกลับมามอบนโยบายและพบปะประชาชนที่ อบต.ยอดแกง อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ และเวลา 15.30 น.จะนั่งเฮลิคอปเตอร์มามอบนโยบายและพบปะประชาชนที่ อบต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ไปยังพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ดต่อไป