หลวงตาบุญชื่นพระสายป่าเดินธุดงค์ออกโปรดด้วยเท้าเปล่า ไปตามถนนทางหลวงสายหลัก จากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มุ่งหน้าสู่ปลายทาง จังหวัดนครพนม บ้านเกิด ซึ่งขณะนี้ผ่านเข้าสู่ตัวอำเภอเมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้ว โดยมีประชาชนซึ่งนับถือศาสนาพุทธ นำพวงมาลัยดอกไม้สด และน้ำเปล่ามาถวายและรอรับพรบารมีเพื่อความเป็นสิริมงคลเป็นระยะๆตลอดข้างทาง ถนนเพชรเกษมที่หลวงตาเดินธุดงค์ผ่าน
วันที่ 21 พ.ย.65 เวลาประมาณ 14.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฑโท อายุ 74 ปี ซึ่งเป็นพระธุดงค์สายป่า รวม 13 พรรษา แห่งที่พักสงฆ์หลวงตาบุญชื่น ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม และเป็นพระสายปฏิบัติ ได้ออกเดินจาริกธุดงค์ด้วยเท้าเปล่าแสวงบุญโปรดญาติโยมและมุ่งเน้นการให้ทานพรบารมีกับพุทธศาสนิกชนที่เคารพเลื่อมใสศรัทธา โดยเริ่มต้นจากอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา มุ่งหน้าสู่ปลายทาง จังหวัดนครพนมซึ่งเป็นบ้านเกิด รวมระยะทาง 3,415 กิโลเมตร โดยจะผ่าน 24 จังหวัด ใช้เวลาในการออกเดินธุดงค์ประมาณ 5 เดือน ซึ่งในวันนี้เป็นการออกเดินธุดงค์เข้าสู่วันที่ 34 จากอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา เข้าสู่เขตตัวอำเภอเมืองประจวบฯ โดยเริ่มต้นออกเดินทางช่วงเช้าวันนี้จากโรงเรียนห้วยยางวิทยา ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก หลังบินฑบาตรและทำวัตรเช้าเสร็จ โดยมีพุทธศาสนิกชนที่เคารพเลื่อมใสศรัทธา ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นำพวงมาลัยดอกไม้สด และน้ำดื่ม มารอถวายและรับพรด้วยการเคาะศีรษะและสิ่งของ ตลอดข้างทางริมถนนเพชรเกษมเป็นระยะๆ
ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยสว่างประจวบฯ อาสากู้ภัยตำรวจทางหลวง และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดประจวบฯร่วมดูและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรตลอดเส้นทาง โดยคืนนี้จะพักจำวัดที่โรงเรียนบ้านบึง หมู่ 16 ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบฯ รวมระยะทางในการออกเดินธุดงค์วันนี้ประมาณ 26 กิโลเมตร และจะมีพิธีทำวัดเย็นในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. หลังจากนั้นในช่วงเช้าของวันที่ 22 พ.ย.65 เวลาประมาณ 05.30 น.จะมีพิธีใส่บาตรเช้า และหลังจากทำวัตรเช้าที่โรงเรียนบ้านบึงเสร็จก็จะออกเดินธุดงค์ต่อมุ่งหน้าเข้าสู่เขตอำเภอกุยบุรีต่อไป**
สำหรับเส้นทางที่ หลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฑโท ออกเดินจาริกธุดงค์เท้าเปล่าแสวงบุญโปรดญาติโยม เริ่มจาก จ.สงขลา ผ่าน จ.ประจวบฯ จ.กาญจนบุรี จ.ตาก จ.แม่ฮ่องสอน จ. เชียงราย กลับภาคอีสานปลายทาง จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านเกิด ส่วนพุทธศาสนิกชนท่านใดที่เลื่อมใสศรัทธาต้องการจะกราบขอพรบารมีเพื่อความเป็นสิริมงคล สามารถรอได้ตามเส้นทางที่ผ่าน ส่วนสิ่งของที่จะนำมาถวายตามเส้นทางเป็นแค่น้ำดื่ม และหลังจากที่ถวายแล้ว หลวงตาเคาะรับถวายแล้ว สามารถนำกลับไปดื่มเพื่อความเป็นสิริมงได้ แต่ถ้าหากไม่ได้นำกลับไปทางหลวงตาจะนำไปให้ทานกับทางวัดและโรงเรียนตามเส้นทางที่ธุดงค์ผ่านต่อไป**
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สภาพอากาศในวันนี้มีแสงแดดที่ไม่ร้อนจัด เนื่องจากเมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกลงมาในพื้นที่อย่างหนัก ทำให้หลวงตาบุญชื่นเดินธุดงค์ด้วยเท้าเปล่าไม่ลำบากมากนัก โดยจะมีพุทธศาสนิกชนที่มารอกราบไหว้ใช้ไม้กวาดปัดกวาดพื้นถนนป้องกันสิ่งแหลมคมไม่ให้บาดเท้าของหลวงตาและพระที่ร่วมเดินทางธุดงค์ โดยหลวงตามีสีหน้าที่เรียบเฉยสุขภาพยังดูแข็งแรงเป็นปกติ โดยจะมีผ้าจีวรที่ม้วนเป็นทรงกระบอกไว้แตะรับสิ่งของที่ชาวบ้านนำมาถวาย และใช้เคาะศีรษะเพื่อให้พรสิริมงคล
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์/4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781