ร้อยเอ็ด…เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บของเล่น ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ระดมรถน้ำรถดับเพลิง 11 คัน สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว

วันนี้(11 พ.ย. 65 )เวลา 09.00 น. ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บของเล่นเด็ก ริมถนนเทวาภิบาล เยื้องสี่แยกไฟแดงบ้านท่านคร เขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จึงรุดออกตรวจสอบพร้อม รถดับเพลิงเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด และรถดับเพลิง มทบ.27 รวม 11 คัน กู้ภัยอโสก กู้ภัยนครสาเกต ถึงจุดเกิดเหตุเป็นโกดังเก็บของเล่นเด็ก

ซึ่งบริเวณหน้าโกดังเปิดเป็นร้านจำหน่ายของเล่นเด็ก เป็นตึกชั้นเดียว ยาวประมาณ 300 เมตร ตรวจสอบพบต้นเพลิงอยู่บริเวณด้านท้ายของโกดัง พบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงใช้น้ำฉีดสกัดเพื่อควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ตรวจสอบพบผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันไฟ 3 ราย มีอาการหายใจไม่สะดวก กู้ภัยนครสาเกตเร่งปฐมพยาบาล นำส่ง รพ.ร้อยเอ็ด

ก่อนที่จะใช้นักดับเพลิงสวมใส่ชุดกันไฟ พร้อมถังอัดอากาศ (ชุด SCBA) เนื่องจากต้นเพลิงอยู่ลึก ไม่สามารถใช้น้ำฉีดเข้าไปได้ ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ เนื่องจากต้นเพลิงเป็นที่เก็บของจำนวนมาก และมีกลุ่มควันลอยภายในอาคาร เสี่ยงต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่

หลังจากนั้นจึงได้ทำการประชุมวางแผนเพื่อจะเข้าถึงต้นเพลิงและระบายกลุ่มควันออกจากตัวอาคาร เนื่องจากเกิดไฟไหม้เป็นเวลานาน อาคารเริ่มมีรอยแตกร้าว จึงได้ใช้รถแบ็กโฮไปเจาะผนังของอาคารที่เป็นจุดต้นเพลิง ก่อนจะใช้นักดับเพลิงเข้าไปฉีดน้ำเพื่อควบคุมต้นเพลิง แต่ไม่สามารถดับไฟได้ เนื่องจากต้นเพลิงมีเปลวเพลิงขนาดใหญ่ไหม้ของเล่นที่ทำจากพลาสติกที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.27 กู้ภัยอโสก และกู้ภัยนครสาเกต อยู่ระหว่างระดมสรรพกำลังรถดับเพลิง เครื่องอัดอากาศ เพื่อเข้าสนับสนุนในที่เกิดเหตุ เพื่อจะวางแผนเพื่อจะใช้อุปกรณ์ในการเข้าถึงต้นเพลิง เพื่อทำการดับไฟให้สำเร็จต่อไป

นายเรืองรัตน์ รัตนโภคาสถิต รองนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด กล่าวว่า ศูนย์ร่วมมือด้านบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดร่วมกับภาคีเครือข่าย กู้ชีพ กู้ภัย สามารถควบคุมเพลิงได้แล้วในเวลา15.00 น.ที่ผ่านมา แต่ยังคงไม่ถอนกำลงนักผจญเพลิงในขณะนี้เพราะว่ายังคงมีกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นมาเป็นระยะ ต้องเหลือเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครไว้คอยระวังป้องกันและสังเกตุการณ์ไม่ให้คาดสายตา

เพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความมั่นใจและสะบายใจว่าจะไม่มีเปลวเพลิงลุกขึ้นมาอีกรอบ นายเรืองรัตน์ กล่าว