“ยิมนาสติก” กระอักกระอ่วน พิษเงินค้างท่อเดินต่อลำบาก
จากการที่ ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี อุปนายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ได้เสนอแผนงานการวางแผนนักกีฬายิมนาสติกทีมชาติไทย ต่อนายกองเอกชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ และ นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ และ วิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อร่วมกันพิจารณางบประมาณการเตรียมนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งกำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ในการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2566 ณ ห้องประชุม ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทยนั้น
ในส่วนของกีฬายิมนาสติก ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี กล่าวว่า ถึงแม้ว่าทางการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้อนุมัติให้แต่ละชนิดกีฬาชุดเตรียมซีเกมส์ และ เอเชี่ยนเกมส์ เริ่มทำการเก็บตัวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ก็ตาม โดยนักกีฬายิมนาสติกได้ทำการเก็บตัวร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง ที่ศูนย์ฝึกสโมสรจินตนา ในซอยเพชรเกษม 81 ซึ่ง ซีเกมส์ ครั้งนี้เฉพาะกีฬายิมนาสติก เจ้าภาพ กัมพูชา ได้จัดชิงแค่ 8 เหรียญทอง จากยิมแอโรบิก และ ยิมนาสติกศิลป์ชาย (ตัดยิมนาสติกศิลป์หญิง และ ยิมนาสติกลีลา) ทำให้ความหวังที่เราควรจะได้หายไปอย่างน้อย 2 เหรียญทอง แต่อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ ยังมั่นใจว่าซีเกมส์ ที่ประเทศกัมพูชาอย่างน้อยมีแน่ 1 เหรียญทอง จากยิมนาสติกแอโรบิก
นอกจากนี้ สมาคมฯ เตรียมส่งนักกีฬายิมศิลป์หญิง “กระแต” น.ส.ศศิวิมล เมืองพวน เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ประเทศเวียดนาม ที่ติดอันดับ 1 ใน 8 จากการแข่งขันยิมนาสติกศิลป์ชิงแชมป์เอเชีย เดินทางไปแข่งขันยิมนาสติกชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 51 ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 6 พฤศจิกายน 2565 ที่เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ เพื่อต่อยอดสู่การเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ที่ประเทศจีนต่อไป
ขณะที่เรื่องงบประมาณในการเก็บตัว และ ค่าใช้จ่ายสำหรับนักกีฬายิมนาสติกทีมชาติไทย ในการแข่งขันทัวร์นาเม้นท์ระดับนานาชาติ ที่ผ่านมาทางสมาคมฯ ได้สำรองจ่ายล่วงหน้าไปแล้วร่วม 10 ล้านบาท ทำให้ไม่สามารถที่จะมีทุนสำรองส่งนักกีฬาไปแข่งขันต่างประเทศอีกแล้วนั้น นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ และ พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ รวมถึง นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้รับปากว่า จะเร่งดำเนินการตามเรื่องให้เร็วที่สุดเนื่องจากทุกสมาคมฯ ได้ประสบปัญหาเรื่องเงินค้างจ่ายจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย อยู่เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้กำชับทั้ง การกีฬาแห่งประเทศไทย และ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ร่วมกันหาทางออกแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาการเดือดร้อนของทุกสมาคม คาดว่าไม่น่าจะเกิน 2 เดือน ทุกอย่างสามารถคลี่คลายในทางที่ดี