“โกเมธ” สร้างประวัติศาสตร์คว้าทองBMXเอเชีย “เสธ.หมึก” ส่งฝึกฝีมือต่อที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก เป้าหมายคว้าเหรียญเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จีน ปั่นใจเกินร้อยที่ จ.กำแพงเพชร คึกคัก-เศรษฐกิจดี
นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ไทย ส.ต.โกเมธ สุขประเสริฐ สร้างประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญทองศึกบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2022 รุ่นประชาชนชาย ที่เมืองนิไล ประเทศมาเลเซีย ส่วน ส.ต.หญิง ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร ในรุ่นประชาชนหญิง และ บวรพิศ นิลสนธิ ในรุ่นเยาวชนชาย ได้เหรียญทองแดง ด้าน “เสธ.หมึก” เผยจะส่ง “โกเมธ” กลับไปฝึกฝีมือที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมายในการคว้าเหรียญรางวัลในศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน ขณะที่ศึกเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และ “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourim Bike 4 All” สนามที่ 3 ที่ จ.กำแพงเพชร สุดคึกคัก “เชาวลิตร แสงอุทัย” พ่อเมืองชากังราวปลื้มใจ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัด ส่วนการถ่ายทอดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association มียอดผู้ชมรวมกันกว่า 22,000 วิว
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ส่งนักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทยไปแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2022 ที่เมืองนิไล ประเทศมาเลเซีย ล่าสุดเมื่อ 20 สิงหาคม ได้รับรายงานจาก “โค้ชบอส” นายอัถร ไชยมาโย หัวหน้าผู้ฝึกสอน ถึงผลการแข่งขันรุ่นต่าง ๆ ปรากฏว่า รุ่นประชาชนชาย “เจ้าเอ้” สิบตรี โกเมธ สุขประเสริฐ ซึ่งเพิ่งเดินทางจากศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โชว์ฟอร์มเหนือชั้นปั่นเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ทั้ง 3 เที่ยว คว้าเหรียญทองไปครองอย่างไม่ยากเย็น เหรียญเงินเป็นของไอ กุสติ บากุส อดีตแชมป์เอเชียจากอินโดนีเซีย และเหรียญทองแดง ริซาล ยุสซี่ จากอินโดนีเซีย ส่วนเพื่อนร่วมทีม “เจ้าฮีม” พลฯ สมคิด ฮาระตะวัน เข้าอันดับ 2 ในเที่ยวแรก แต่เที่ยวที่ 2 โดนนักปั่นอินโดนีเซียปิดไลน์ เข้าอันดับที่ 6 และเที่ยวที่ 3 ก็พลาดท่าถูกนักปั่นอินโดนีเซียเกี่ยวล้มอีก คว้าอันดับ 6 ไปครอง
ด้านผลการแข่งขันรุ่นอื่น ๆ นักปั่นไทยคว้าเพิ่ม 2 เหรียญทองแดง จาก นายบวรพิศ นิลสนธิ ในรุ่นเยาวชนชาย แชมป์ตกเป็นของ คิกูชิ เฮียวกะ จากญี่ปุ่น ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ ใจอยู่ และ นายศรัณวิทย์ รัศมี ได้อันดับ 4 และอันดับ 8 ส่วนอีก 1 เหรียญได้จาก “น้องฟ้า” สิบตรีหญิง ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร ในรุ่นประชาชนหญิง ส่วน น.ส.วรัญญา แซ่แต้ เพื่อนร่วมทีมเข้าเส้นชัยอันดับ 4 โดยแชมป์ตกเป็นของ แทนโน คามามิ จากญี่ปุ่น นอกจากนี้ รุ่นเยาวชนหญิง น.ส.กนกรัตน์ ฤทธิเดช ได้อันดับที่ 4, น.ส.กมลวรรณ แก้วจีน ได้อันดับที่ 6, น.ส.หทัยเพชร ใจสว่าง ได้อันดับที่ 7 / รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง น.ส.ธนาภรณ์ โตทอง ได้อันดับที่ 4, น.ส.เขมิกา ศรีโสภา ได้อันดับที่ 5 / รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ ได้อันดับที่ 7
พลเอกเดชา เปิดเผยว่า เป็นที่น่ายินดีที่ โกเมธ สามารถคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชียมาครองได้สำเร็จ และสามารถชนะคู่แข่งจากชาติต่าง ๆ อย่างขาดลอย หลังจากนี้ก็จะส่ง โกเมธ กลับไปฝึกซ้อมที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ต่อไป เพื่อเป้าหมายในการคว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน ส่วน ชุติกาญจน์ ทางผู้ฝึกสอนของศูนย์ฝึกจักรยานโลก แนะนำว่าให้กลับมาฝึกซ้อมที่ประเทศไทยเพื่อเสริมทักษะให้แน่นเสียก่อน ขณะเดียวกัน นายอัถร ไชยมาโย หัวหน้าผู้ฝึกสอน ได้รายงานมาว่านักกีฬาหลาย ๆ ชาติ โดยเฉพาะอินโดนีเซีย และมาเลเซีย มีพัฒนาการของนักปั่นรุ่นเยาวชนและรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่นักปั่นจากญี่ปุ่นก็ยกระดับในรุ่นเยาวชนขึ้นไปเทียบกับระดับโลกได้อย่างสูสี ซึ่งทำให้จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ของไทยยังมีงานหนักที่จะต้องเร่งกระบวนการพัฒนาในทุกรุ่นอายุทั้งทางด้านความแข็งแกร่ง ความเร็วและทักษะต่อไปไม่หยุดยั้ง เพื่อให้มีนักกีฬาทดแทนกันได้ในมาตรฐานใกล้เคียงกันที่สุดต่อไป
ด้านการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และการแข่งขันจักรยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2565 สนามที่ 3 ที่จังหวัดกำแพงเพชร โดยพิธีเปิดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ได้รับเกียรติจาก นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ร่วมกับ เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันร่วมกับ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ร่วมในพิธี ณ บริเวณสนามหน้าเมือง อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร
สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ มีการถ่ายทอดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association ปรากฏว่ามียอดผู้ชมรวมกันกว่า 22,000 วิว พร้อมทั้งผู้ชมต่างชาติจาก ฟิลิปปินส์, ลาว, กัมพูชา และเมียนมา ร่วมรับชมด้วย นอกจากนี้ยังมีนักปั่นจักรยานจากชมรมจักรยานต่าง ๆ ในจังหวัดกำแพงเพชร ร่วมปั่นในกิจกรรม “ปั่นเชื่อมสายใย ขวัญใจคนแกร่งกำแพงเพชร” รวมกับนักปั่นที่ร่วมแข่งขันในรายการเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) มีจำนวนรวมกันเกือบ 1,000 คน พร้อมกันนี้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ร่วมกับ ธนาคารออมสิน และจังหวัดกำแพงเพชร จัดกิจกรรมเพื่อสังคม หรือ CSR ในโครงการ “มอบจักรยานเพื่อน้อง” จำนวน 100 คัน ให้แก่จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อไปส่งมอบต่อให้แก่นักกีฬาที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือประสบปัญหาในการเดินทางไปโรงเรียน
นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ที่ได้นำการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และ “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourim Bike 4 All” มาจัดที่จังหวัดกำแพงเพชรเป็นครั้งแรก ทำให้จังหวัดกำแพงเพชรกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากประสบปัญหาการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ซึ่งการแข่งขันกีฬาจักรยานสามารถเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว และการกระตุ้นเศรษฐกิจ วันนี้พ่อแม่พี่น้องจากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ จะได้เห็นบรรยากาศของจังหวัดกำแพงเพชรอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสร้างทางแข่งขันที่มีทัศนียภาพสวยงาม หรืออุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และเป็นมรดกโลก รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้สมาคมกีฬาจักรยานฯ และธนาคารออมสิน ยังได้นำจักรยานมามอบให้จังหวัดกำแพงเพชรอีกจำนวน 100 คัน ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างสูง
พ่อเมืองชากังราว กล่าวอีกว่า จังหวัดกำแพงเพชรถือว่าเป็นจังหวัดที่อยู่กึ่งกลางระหว่างกรุงเทพมหานคร กับเชียงใหม่ ระยะทางเพียง 350 กิโลเมตร คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นเพียงจังหวัดที่เป็นทางผ่านหรือเป็นเมืองรอง ดังนั้นการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้นำการแข่งขันจักรยานทั้ง 2 รายการมาจัดแข่งขันครั้งนี้ นับว่าเป็นการเปิดเมืองให้ประชาชนทั่วไปได้รู้จักจังหวัดกำแพงเพชรมากยิ่งขึ้น และรับทราบว่าจังหวัดของเรามีความสวยงามมาก มีแม่น้ำปิงที่งดงาม สิ่งสำคัญคือเป็นการทำให้ทุกภาคส่วนในจังหวัดกำแพงเพชรมีความกระตือรือร้น เกิดความร่วมไม้ร่วมมือกันทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงธุรกิจภายในจังหวัดได้รับผลประโยชน์อย่างมากมายมหาศาล หวังว่าจังหวัดกำแพงเพชรจะได้รับเกียรติจากสมาคมกีฬาจักรยานฯ ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปีต่อ ๆ ไป
ขณะที่ผลการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) รุ่นที่น่าสนใจ มีดังนี้ รุ่น 11-12 ปีชาย ระยะทาง 13.90 กิโลเมตร ที่ 1 ด.ช.วัชรพงษ์ สังฆะสอน (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ กองบิน 46 พิษณุโลก) เวลา 30.28 นาที, ที่ 2 ด.ช.รัฐพงษ์ ดวงวิเชียร (Prime 19) เวลา 30.44 นาที, ที่ 3 ด.ช.เจษฎาพร ใจเย็น (ชากังราว จ.กำแพงเพชร) เวลา 30.44 นาที
รุ่นอายุ 15-16 ปีชาย ระยะทาง 54.30 กิโลเมตร ที่ 1 นายธนภัทร สกุลแตร (Prime 19-โรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง), ที่ 2 นายกิตติโชติ เทียมเพชร (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ-โกกิ), ที่ 3 นายศุภสัณห์ มุสิกสิน (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย โคกกระเทียมวิทยาลัย) เวลา 1.43.28 ชั่วโมงเท่ากัน
รุ่นอายุ 15-16 ปีหญิง ระยะทาง 54.30 กิโลเมตร ที่ 1 ด.ญ.ภุมรัตน์ เฉลิมกิจ (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย), ที่ 2 น.ส.ปาริชาติ พลเยี่ยม (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย), ที่ 3 น.ส.ฐนิญาพร สิงห์ทอง (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย ราชวินิตบางแก้ว) เวลา 1.51.43 ชั่วโมงเท่ากัน
รุ่นทั่วไปชาย ระยะทาง 54.30 กิโลเมตร ที่ 1 อส.ทพ.ณรงค์ฤทธิ์ นิลสุวรรณ (ราชนาวี ราชาจักรยานไบค์เน็ต TrinX Chaoyang) เวลา 1.21.21 ชั่วโมง, ที่ 2 นายพงษ์ศักดิ์ ทุยบึงฉิม (Triple-S Factory Team) เวลา 1.21.39 ชั่วโมง, ที่ 3 นายธนพล วงศ์หล้า (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ-โกกิ) เวลา 1.21.39 ชั่วโมง
รุ่นทั่วไปหญิง ที่ ระยะทาง 54.30 กิโลเมตร ที่ 1 น.ส.อรวรรณ หมื่นทุม (สิงห์ TrinX Chaoyang OKO มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุโขทัย), ที่ 2 น.ส.ปัณฑิตา ชิตมาตย์ (Prime), ที่ 3 น.ส.กิ่งกาญจน์ ณรงค์ (Prime 19 สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเพชรบุรี) เวลา 1.51.43 ชั่วโมงเท่ากัน ส่วนผลการแข่งขันทั้งหมดติดตามได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th
สำหรับโปรแกรมวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม เป็นการแข่งขัน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” เริ่มเวลา 08.00 น. โดยได้รับเกียรติจาก นายสุนทร รัตนากร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร ให้เกียรติเป็นประธาน ซึ่งจะเริ่มปล่อยตัวรุ่น AV 40, เวลา 08.05 รุ่น AV 35 และเวลา 08.10 น. รุ่น AV30 เส้นทางเริ่มจากบริเวณทางเข้าลานหน้าเมือง บนถนนหมายเลข 101 / ผ่านสะพานข้ามคลองชลประทาน / ผ่านศูนย์ราชการจังหวัดกำแพงเพชร / ผ่านสำนักงานเทศบาลตำบลพรานกระต่าย / ไปทางซ้ายตามสามแยก / เลี้ยวซ้ายสี่แยกพรานกระต่าย / ผ่าน อบต.วังตะแบก / ผ่านสะพานข้ามคลองแม่ระกา / ผ่านวัดอินทาราม / เลี้ยวซ้ายสามแยกท่าไม้แดง / ผ่านโรงเรียนบ้านวังชะโอน / ผ่านวัดป่าลานดอกไม้ / ผ่านวิทยาลัยสารพัดช่างกำแพงเพชร / เลี้ยวซ้ายสามแยกคูเมืองเก่า / เลี้ยวขวาสามแยกคูเมืองเก่า / ผ่านสามแยกศาลหลักเมือง / ผ่านป้อมประตูเมืองเก่า บ้านโนน / เข้าเส้นชัยที่ประตูทางเข้าลานหน้าเมือง ระยะทางรวม 76 กิโลเมตร ซึ่งจะมีการถ่ายทอดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association ให้ชมตลอดการแข่งขัน
