สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เชิญชวนส่วนราชการ สถานศึกษา ภาคประชาชน ร่วมบริจาคโลหิต ให้กับธนาคารเลือด เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยตามสถานพยาบาล หลังผ่อนคลายจากสถานการณ์โควิด-19 และมีความต้องการโลหิตสำรองใช้ในการรักษาผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก
ที่สำนักงานคุมประพฤติ จ.กาฬสินธุ์ กรรมการเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ ชุด 4 นำโดยนางจงกลนี เกียรติดำเนินงาม และคณะ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ พยาบาล โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ จัดหน่วยเคลื่อนที่ออกรับบริจาคโลหิต โดยมีนายประหยัด ไม้แพ ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติ จ.กาฬสินธุ์ นำเจ้าหน้าที่ บุคลากร และประชาชน ร่วมบริจาคอย่างพร้อมเพรียง
นางจงกลนี เกียรติดำเนินงาม กล่าวว่า การจัดหน่วยเคลื่อนที่ออกรับบริจาคโลหิตดังกล่าว ทางสำนักงานเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ โดยนายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์และในฐานะนายกเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ ได้ร่วมกับโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และโรงพยาบาลทุกแห่งใน 18 อำเภอ ได้จัดตารางออกรับบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้ว่างเว้นการจัดหน่วยออกรับบริจาค เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงทำให้โรงพยาบาลทุกแห่ง ขาดแคลนโลหิตที่จะนำไปช่วยเหลือประชาชนผู้เจ็บป่วยและเข้ารับการรักษาตามสถานพยาบาล
นางจงกลนีกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ผ่อนคลายลง สำนักงานเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ จึงได้ร่วมกับโรงพยาบาลประจำอำเภอ จัดหน่วยเคลื่อนที่ออกรับบริจาคโลหิตกับเจ้าหน้าที่ บุคลากร ตามหน่วยงานราชการ พร้อมกันนี้ยังขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนสถาบันการศึกษา นักเรียน นักศึกษา ภาคเอกชน ประชาชนทั่วไป ร่วมบริจาคโลหิต เพื่อนำไปช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ที่ถือว่าเป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่
“นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่เข้ารับการบริจาคโลหิต ยังจะได้รับการตรวจเช็คร่างกาย ซึ่งเป็นการตรวจคัดกรองโรคเบื้องต้นในโอกาสเดียวกันอีกด้วย คือได้ตรวจสุขภาพแบบฟรี ๆ ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดใหม่ มีออร่าหน้าใสผิวพรรณเปล่งประกาย ลดความเสี่ยงจากโรคต่าง และจิตใจดีมีความสุขที่ได้เป็นผู้ให้ เกิดความอิ่มเอิบใจกับการที่รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า สามารถสร้างประโยชน์ต่อผู้คนหรือสังคมได้ มีโอกาสทำความดี ได้เสียสละในสิ่งที่ไม่ได้ทำให้ตนยากลำบากแต่อย่างใด แต่กลับเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ ที่สามารถช่วยผู้อื่นให้มีชีวิตรอดปลอดภัยได้ คือข้อดีของการบริจาคโลหิต จึงขอเชิญชวนส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษา ประชาชน ร่วมบริจาคโลหิตโดยพร้อมเพรียงกัน” นางจงกลนีกล่าว