‘จิราพร’ ชี้ ‘ประยุทธ์’ ติดกับดักกฎหมายสมัยรัฐประหาร ทำกองทุนน้ำมันขาดเสถียรภาพ คนไทยต้องใช้น้ำมันแพงเดือดร้อนถ้วนหน้า
นางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 กล่าวถึง การพิจารณางบประมาณฯ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2565 ว่าภายหลังการชี้แจงของกระทรวงพลังงาน พบว่า ในสมัยรัฐบาล คสช. ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่มาจากการแต่งตั้ง ได้ออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ซึ่ง มาตรา 26 ของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ กำหนดให้กองทุนต้องมีเงินเพื่อใช้ในการบริหารจัดการอยู่ไม่เกิน 40,000 ล้านบาท ส่วนที่เก็บได้เกินจากจำนวนที่กำหนดต้องนำส่งเข้าคลัง ซึ่งการจำกัดเพดานวงเงินกองทุนน้ำมันเช่นนี้กลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้สถานะกองทุนไม่แข็งแรงพอ เกิดปัญหาในการบริหารจัดการ เมื่อเกิดวิกฤตราคาน้ำมัน จึงส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของคนไทยทุกคน
นางสาวจิราพร กล่าวต่อว่า แม้ราคาน้ำมันโลกจะสูงขึ้น แต่รัฐบาลมีเครื่องมือรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันภายในประเทศ ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ราคาน้ำมันในตลาดโลกเคยสูงถึง 136 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ด้วยความสามารถในการบริหารประเทศ สถานะทางการคลังแข็งแรง จึงสามารถลดภาษีสรรพสามิตและทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกที่ประชาชนต้องจ่ายถูกกว่าปัจจุบัน ขณะที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ตอนนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกอยู่ที่ประมาณ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่รัฐบาลไม่สามารถบริหารจัดการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เพราะกฎหมายที่กำหนดเพดานเงินในกองทุนน้ำมันมีไม่เพียงพอในการบริหารจัดการราคาน้ำมันได้ ส่วนภาษีสรรพสามิตก็ไม่สามารถลดลงได้เพราะหาเงินไม่เป็น จึงต้องรีดภาษีกับประชาชน ทั้งหมดเกิดจากความบกพร่องล้มเหลว ขาดวิสัยทัศน์ ขาดความรอบคอบ ขาดความรู้ความสามารถ ของพลเอกประยุทธ์ทั้งสิ้น
“ราคาน้ำมันในประเทศที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ล้มเหลวในการบริหาร แถมยังออกกฎหมายที่กลายเป็นกับดักทำให้ตัวเองไม่สามารถบริหารจัดการราคาน้ำมันได้ ส่งผลให้หลังเกิดวิกฤตราคาน้ำมันแค่ 4 เดือน กองทุนน้ำมันติดลบนับ 100,000 ล้านบาท เท่ากับว่าแม้หลังจากนี้ ราคาน้ำมันโลกจะถูกลง แต่คนไทยจะต้องใช้น้ำมันแพงไปอีกไม่ต่ำกว่า 5 เดือน เพราะรัฐบาลต้องเก็บเงินจากผู้ประกอบการน้ำมันมาชดเชยกองทุนที่ติดลบ ราคาน้ำมันจึงไม่สามารถลดลงได้ คนไทยต้องจำใจอยู่กับของแพงค่าแรงต่ำจะอยู่กับคนไทยไปอีกหลายเดือน” นางสาวจิราพร กล่าว
