กระบี่-เกษตรจังหวัดกระบี่แนะนำเกษตรเลือกซื้อต้นกล้าปาล์มน้ำมันที่มีคุณภาพแก้เร่งปัญหาต้นกล้าปาล์มน้ำมันปลอมระบาด

กระบี่-เกษตรจังหวัดกระบี่แนะนำเกษตรเลือกซื้อต้นกล้าปาล์มน้ำมันที่มีคุณภาพแก้เร่งปัญหาต้นกล้าปาล์มน้ำมันปลอมระบาด

นายชำนาญ นุ่นดำ เกษตรจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงปัญหาต้นกล้าปาล์มน้ำมันปลอมกำลังระบาดขณะนี้ว่า จากสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมันที่มีราคาดีอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2564 -2565 ทำให้เกษตรกรสนใจหันมาปลูกปาล์มน้ำมันเป็นจำนวนมาก ทดแทนสวนเก่าหรือพืชเดิมที่เคยปลูกอยู่ทำให้ความต้องการในเรื่องของต้นกล้าปาล์มน้ำมันมีความต้องการสูงและไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรจากเมื่อก่อนต้นกล้าปาล์มน้ำมันมีราคาต้นละประมาณ 120 บาท ปัจจุบันราคาเพิ่มขึ้นเป็น 180-260 บาท

ดังนั้นเกษตรกรที่จะมาปลูกปาล์มน้ำมันใหม่ต้องมีการวางแผนในเรื่องของการหาต้นกล้าปาล์มน้ำมันที่จะนำมาปลูก และที่สำคัญต้นกล้าปาล์มน้ำมันที่จะนำมาปลูกต้องมีลักษณะดี เช่น เป็นต้นกล้าปาล์มน้ำมันที่มีการขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร มีใบรับรองสายพันธุ์ แปลงเพาะต้องมีการบริหารจัดการที่ดีได้มาตรฐานมีการคัดทิ้ง มีการจัดเรียงวางถุงอย่างถูกต้องและเหมาะสม ต้นกล้าปาล์มน้ำมันที่จะนำไปปลูกต้องมีอายุประมาณ 8-12 เดือน ต้นกล้าปาล์มน้ำมันสมบูรณ์ตรงตามลักษณะพันธุ์เทเนอร่า แปลงเพาะมีความน่าเชื่อถือมีการประกอบอาชีพการเพาะกล้าพันธุ์ปาล์มมาอย่างยาวนาน


จังหวัดกระบี่มีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน 1,151,415 ไร่ในปี 2564 ราคาปาล์มน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 6 บาท 88 สตางค์ต่อกิโลกรัมซึ่งถือเป็นราคาที่เกษตรกรให้ความสนใจเป็นอย่างมากและเป็นกระแสในการปลูกปาล์มน้ำมันทดแทนพืชเดิม จึงทำให้มีความต้องการต้นกล้าปาล์มน้ำมันในปริมาณมาก ทำให้ต้นกล้าปาล์มน้ำมันขาดตลาด จากข้อมูลผู้ประกอบการแปลงเพาะกล้าปาล์มน้ำมันพบว่าไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร อาจจะต้องจองต้นกล้าปาล์มน้ำมันล่วงหน้าข้ามปี เนื่องจากการผลิตเมล็ดพันธุ์ปาล์มน้ำมันลูกผสมที่มีคุณภาพและการเพาะต้นกล้าปาล์มน้ำมัน ต้องใช้เวลา จึงทำให้ต้นกล้าปาล์มน้ำมันขาดตลาด ส่งผลให้มีผู้ผลิตและผู้จำหน่ายปั๊มน้ำมันปลอมหรือต้นกล้าปาล์มน้ำมันที่ไม่มีคุณภาพ

โดยนำเมล็ดหรือต้นกล้าปาล์มน้ำมันที่งอกจากโคนต้นมาเพาะจำหน่ายแก่เกษตรกรและไม่มีใบรับรองสายพันธุ์ที่ถูกต้องจากกรมวิชาการเกษตร หากเกษตรกรนำต้นกล้าปาล์มน้ำมันที่ไม่มีคุณภาพไปปลูกจะสร้างความเสียหายส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันทั้งระบบ ทำให้ระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศสูญเสียรายได้มหาศาล ดังนั้นการเกษตรกรที่ต้องการจะปลูกปาล์มน้ำมันต้องมีความรู้และสังเกตแปลงปาล์มน้ำมันตามวิธีการที่สำนักงานเกษตรจังหวัด หรือกรมส่งเสริมการเกษตร และกรมวิชาการเกษตรแนะนำ
ปัจจุบันจังหวัดกระบี่มีแปลงเพาะที่ได้รับอนุญาตจากกรมวิชาการเกษตรจำนวนทั้งสิ้น 45 แปลงเพาะ และมีแปลงที่จดทะเบียนต้นพ่อแม่พันธุ์ปาล์มน้ำมันในประเทศ 7 แห่ง เกษตรกรสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กรมวิชาการเกษตรหรือ www.doa.co.th
…..

กระบี่///ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน

Related posts