กฤตชัย พยอมแย้ม ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 29 และผู้สมัครสก. ทั้ง 10 เขตเชิญสื่อมวลชนร่วมงานแถลงข่าว นโยบายการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

กฤตชัย พยอมแย้ม ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 29 และผู้สมัครสก. ทั้ง 10 เขตเชิญสื่อมวลชนร่วมงานแถลงข่าว นโยบายการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 นายกฤตชัย พยอมแย้ม ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 29 และผู้สมัครสก. ทั้ง 10 เขต ได้เชิญสื่อมวลชนร่วมงานแถลงข่าว นโยบายการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ณ ที่ทำการพรรคประชากรไทย ทาวน์ อิน ทาวน์ โดยนายกฤตชัยเสนอแนวคิดนโยบาย “ใกล้ ใหม่ ใหญ่” ซึ่งมีจุดเด่นที่จะทำให้คนกรุงเทพอยู่ดีกินดีมีสุขทันที เนื่องจากใช้งบประมาณแผ่นดินน้อยที่สุด จึงสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนกรุงเทพได้อย่างรวดเร็วและดีที่สุด
การแถลงนโยบายผู้ว่าฯกทม.นี้ ดร.คณิศร สมมะลวน หัวหน้าพรรคประชากรไทยได้เล่าถึงทิศทางของพรรค ซึ่งดร.คณิศรมองว่าประชากรกรุงเทพก็คือประชากรไทย และประชากรไทยก็คือประชากรโลก บัดนี้พรรคมีคณะกรรมการนโยบายที่แข็งแกร่ง พร้อมที่จะพัฒนาประชากรไทยให้ล้ำหน้าไม่แพ้ประชากรโลก และประกาศความพร้อมในการเลือกตั้งใหญ่ จากนั้นนายกฤตชัย พยอมแย้ม ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 29 ได้เปิดวีดิทัศน์ความยาว 20 นาที ที่แสดงวิสัยทัศน์นโยบายใกล้ใหม่ใหญ่อย่างละเอียด โดยนายกฤตชัยอธิบายว่า หัวใจสำคัญของผู้ว่าฯในยุคนี้จะต้องใกล้กับประชาชนจริงๆจึงจะเข้าใจปัญหาได้ลึกซึ้ง ไม่ว่าการลงพื้นที่ด้วยตัวเองหรือมอบหมายสก.ไปตามเขตต่างๆ ที่สำคัญคือ ประชาชนต้องสามารถเข้าถึงผู้ว่าได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เรียกว่า “ออนไลน์ ทาวฮอลล์ Online Townhall” ที่เปรียบเสมือนที่ว่าการที่ประชาชนร้องเรียน ติชมและให้คำแนะนำได้ตลอดเวลา ก่อนนอนและตื่นเช้ามา ผู้ว่าสามารถที่จะดูเรื่องต่างๆที่ประชาชนในเขตต่างๆแจ้งเข้ามา ซึ่งสก.ทุกเขตต้องหมั่นตรวจเช็คข้อมูลเพื่ออยู่ใกล้ประชาชนใกล้ชิดกับปัญหา ร่วมกันเสริมสร้างความสุขให้ประชาชน นอกจากนี้เรื่องใกล้ตัวที่พรรคมีนโยบายเพื่อคนกรุงเทพคือ จัดตั้งรร.เพิ่มทักษะและรร.ผู้สูงอายุสร้างสุข ลบเครดิตเสียที่เกิดช่วงโควิด และเสนอสวัสดิการประกันชีวิตและสวัสดิการประกันสังคมให้กับคนทุกกลุ่มรวมถึงคนทำงานอิสระและภาคกลางคืน สำหรับความใหม่ จะต้องมีการใช้เทคโนโลยีเพราะจะช่วยเรื่องปากท้องหรือเศรษฐกิจของประชาชนได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการค้าขาย การสั่งซื้อสินค้าและบริการ แพลตฟอร์มการรับงานของผู้ที่มีอาชีพอิสระ รวมถึงแพลตฟอร์มสำหรับความปลอดภัยในการใช้ชีวิตของคนเมือง แพลตฟอร์มสำหรับเส้นทางจราจร แพลตฟอร์มสำหรับให้ทุกคนปล่อยพื้นที่ให้เช่า แพลตฟอร์มสำหรับผู้ค้าขายรายเล็กที่ไม่มีโอกาสเข้าแพลตฟอร์ทใหญ่และจะไม่ถูกเอาเปรียบค่าธรรมเนียม และแพลตฟอร์มสำหรับช่วยกันรักษาความสะอาด สิ่งสำคัญที่สุดคือแพลตฟอร์มที่จะนำการศีกษานานาชาติจากต่างประเทศมาให้นักเรียนและนักศึกษาในกทม.เรียนฟรี ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานในต่างประเทศ และผู้ว่าจะต้องนำความยิ่งใหญ่ทางเศรษฐกิจมาสู่กรุงเทพ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์กลางสตาร์ทอัพที่เชื่อมต่อถึงผู้เชี่ยวชาญและนักลงทุนในประเทศชั้นนำ แลนมาร์คทางธุรกิจ ศูนย์กลางสินค้ากรุงเทพสู่ระดับโลก ศูนย์กลางสถาบันการเงินนานาชาติ ศูนย์กลางการค้าและผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิตอล และศูนย์กลางตลาดแรงงานดิจิตัลที่เปิดให้คนกรุงเทพรับงานจากผู้ว่าจ้างในต่างประเทศได้ และเอกลักษณ์ที่สำคัญของกรุงเทพคือ การส่งเสริมให้เป็นมหานครแห่งความบันเทิงของโลก และคำว่าคนกรุงเทพนั้นคือผู้ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพทุกคน รวมถึงจะดูแลแรงงานต่างด้าวด้วย
นอกจากนี้ ผู้สมัครสก.ทั้ง 10 เขตยังได้กล่าวถึงนโยบายที่ตนจะผลักดันหากได้รับเลือกเข้าสภากรุงเทพมหานคร ดังนี้ 1) นายกรวิชญ์ พูนผล เขตลาดพร้าว เบอร์ 9 จะแก้ปัญหาสภาพพื้นผิวการจราจรและนำเทคโนโลยีมารักษาความสะอาดและปลอดภัยให้พ่อค้าแม่ค้า 2) นายชัยยะ ศรีภา เขตบางเขน เบอร์ 9 จะเสนอมาตรการเพื่อรองรับให้ธุรกิจต่างๆเปิดตลอดไม่มีปิดแม้มีโรคระบาด 3) นายมโนกร โรจนสุวรรณ เขตหลักสี่ เบอร์ 7 ต้องการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ การศึกษา และใช้ AI เพื่อแก้ปัญหารถติด 4) นายเดชบดินทร์ มาสิลีรังสี เขตสายไหม เบอร์ 8 จะผลักดันการลดช่องว่างระหว่างคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ 5) นางสาวปภัสรินทร์ กีรติอัคราวัชร์ เขตบางแค เบอร์ 8 จะเสนอนโยบายสร้างสวัสดิการชีวิตและเครดิตธุรกรรมทางการเงินให้ทุกกลุ่มอาชีพ 6) นางสาวฤดีมาศ เที่ยงทัศน์ เขตดอนเมือง เบอร์ 7 จะใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาชุมชนแออัดและสร้างอาชีพในแหล่งชุมชนแะตลาด 7) นายจักรพันธ์ สุรีย์ส่อง เขตวัฒนา เบอร์ 8 จะเปิดให้ประชาชนเข้าถึงสก.ผ่านแอ้พได้ตลอดเวลา 8) นางสาวหฤทัย ทวีพรกิจกุล เขตปทุมวัน เบอร์ 8 เสนอการจัดระเบียบและเพิ่มการจองพื้นที่เพื่อค้าขายด้วยเทคโนโลยี 9) ผู้แทน นางสาวแพรลฎา พจนารถ เขตสวนหลวง เบอร์ 10 จะผลักดันนโยบายสร้างความเท่าเทียมทางโอกาสทางการศึกษาและตอบโจทย์ตลาดแรงงาน และ 10) นายอดิเทพ จาวลาห์ เขตดุสิต เบอร์ 10 จะเสนอนโยบายรักษาสิทธิในการรับวัคซีนด้วยความสมัครใจ และการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีน และผลักดันการมีทนายบริการประชาชนกรณีมีการฟ้องร้องตามที่ระบุไว้ในเอกสาร FDA
โดยนายสุมิตร สุนทรเวช ประธานพรรคได้กล่าวขอบคุณสื่อมวลชนที่มาฟังนโยบายผู้ว่าฯกทม. นับเป็นทศวรรษใหม่ของพรรค ที่มีคนรุ่นใหม่ มีความรู้ ความสามารถ และหัวใจที่ทำงานเพื่อประชาชน

Related posts