กรมป่าไม้ จับมือกรมศิลปากร และจังหวัดอุดรธานี เซ็น MOU นำเสนออุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทเข้าสู่บัญชีมรดกโลก กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว
วันนี้ (30 เม.ย.65) เวลา 16.30 น. ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการนำเสนออุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทเข้าสู่บัญชีมรดกโลก ระหว่าง นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายวิมล สุระเสน นายอำเภอบ้านผือ
นายเอกพล ศรีทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองพาน และนายมงคล มีลา นายกเทศมนตรีตำบลกลางใหญ่ ณ อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี
นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท และแหล่งวัฒนธรรมสีมา วัดพระพุทธบาทบัวบาน ซึ่งเป็นแหล่งมรดกวัฒนธรรม ที่จะนำเสนอเข้าสู่บัญชีมรดกโลกนี้ ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขือน้ำ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โดดเด่นสวยงาม ซึ่งกรมศิลปากรขอใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดังกล่าว จำนวน 3,430 ไร่ จัดตั้งเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เพื่อประโยชน์ต่อปวงชนชาวไทย แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่ต่อเนื่องกัน
“ ทั้ง 2 พื้นที่นี้ ถือว่าได้รับการปกป้องคุ้มครองอย่างดีเยี่ยม จากทั้งพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 แก้ไขเพิ่มเติม ใน พ.ศ. 2535 ของกรมศิลปากรในการปกป้องคุ้มครองโบราณสถาน ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท และแหล่งวัฒนธรรมสีมาวัดพระพุทธบาทบัวบาน ส่วนพื้นที่โดยรอบแหล่งมรดกวัฒนธรรม
หรือพื้นที่กันชนนั้น มีพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ของกรมป่าไม้ ในการปกป้อง คุ้มครองพื้นที่ป่าสงวน เพื่อรักษาสภาพป่าของป่า และทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ รวมถึงการป้องกันการเสื่อมสภาพของป่าสงวนแห่งชาติด้วย” นายสุรชัย กล่าว
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวอีกว่า ทางกรมป่าไม้ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ต่อความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ ที่ตระหนักถึงคุณค่า และการสงวนรักษาป่าไม้ ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์แหล่งมรดกวัฒนธรรม จากทั้งภาครัฐ อันมีกรมศิลปากร กรมป่าไม้ จังหวัดอุดรธานี และภาคประชาชน ซึ่งจะได้ร่วมกันมีส่วนร่วมในการปกป้องคุ้มครองแหล่งมรดกวัฒนธรรม และพื้นที่ป่า ที่จะนำเสนอ เข้าสู่บัญชีมรดกโลกต่อไป
ทั้งนี้ การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การนำเสนออุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทเข้าสู่บัญชีมรดกโลกในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจาก มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ได้เห็นชอบให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย
ด้านวัฒนธรรม ด้วยการเพิ่มจำนวนแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลก โดยให้กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผลักดันการขึ้นทะเบียนแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลกให้มากขึ้น เพื่อดำเนินการตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว