โฆษกเพื่อไทย ยันหาก ‘แพทองธาร’จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ไม่ใช่เรื่องแปลก เหตุมีความรู้ความสามารถ แนะ ปชป.ไปจัดการปัญหาในพรรคตัวเองก่อน

โฆษกเพื่อไทย ยันหาก ‘แพทองธาร’จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ไม่ใช่เรื่องแปลก เหตุมีความรู้ความสามารถ แนะ ปชป.ไปจัดการปัญหาในพรรคตัวเองก่อน

 

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การแสดงวิสัยทัศน์ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ของพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2565 ในประเด็นที่พรรคยืนยันว่ามีความพร้อมแล้วที่จะเป็นรัฐบาลและไม่ทิ้งคนรากหญ้า โดยนายธนกรระบุว่า รัฐบาลชุดนี้จะต้องใช้หนี้มากมายจากการทุจริตของรัฐบาลชุดที่แล้วและยังได้พาดพิงโครงการรับจำนำข้าวที่ไม่ได้นึกถึงชาวนานั้น อยากให้ผู้พูดกลับไปทบทวนข้อมูลของหนี้สาธารณะตลอดอายุการทำงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้า คสช. รวมกว่า 8 ปีที่พลเอกประยุทธ์เข้ามายึดอำนาจ จนถึง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะอยู่ที่ 9.8 ล้านล้านบาท หรือ 60.17% ของจีดีพี รวมทั้งการออก พ.ร.ก.กู้เงินอีก 2 ฉบับอีก 1.5 ล้านล้านบาท ที่กู้มาแจกแบบไร้การวางแผน เรียกได้ว่าเป็นการสร้าง “หนี้จน” เพราะยิ่งกู้คนไทยยิ่งจนลง ไม่ได้รับประโยชน์ร่วมจากการกู้หนี้ยืมสินแม้แต่บาทเดียว

ส่วนการที่นายธนกร พาดพิงว่าคนในพรรคเพื่อไทยหนีไปต่างประเทศไม่ต้องการรับโทษนั้น อยากให้นายธนกร ย้อนกลับไปดูกรณีของพล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และอดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา บนเทือกเขาแก้ว อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อปี 2558 ซึ่งอยู่ในห้วงเวลาเดียวกันกับที่พลเอกประยุทธ์ เข้ามาเป็นหัวหน้า คสช. พอดี พล.ต.ต.ประวีณ ทำหน้าที่ในการแก้ปัญหาค้ามนุษย์อย่างดีที่สุด แต่กลับถูกกลั่นแกล้ง ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้มีอำนาจ จนต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ เช่นเดียวกับผู้มีความรู้ความสามารถของพรรคเพื่อไทยและอีกหลายคนที่ต้องอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน

นางสาวธีรรัตน์ ยังกล่าวถึง กรณีที่คนในพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า นางสาวแพทองธาร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทยแน่นอน พร้อมออกความเห็นว่าคนในพรรคเป็นแค่เบ๊รับใช้ว่า นางสาวแพทองธารเป็นที่ยอมรับของผู้ใหญ่ในพรรคและคนในพรรค เพราะเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ เป็นบุคคลที่ประชาชนยอมรับ ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกแต่อย่างใด ซึ่งดีกว่านายกรัฐมนตรีที่ถูกยัดเยียดมา ประชาชนไม่ได้เลือก ไม่มีความรู้ความสามารถ ไม่ได้รับการยอมรับ จนทำให้ประเทศไทยเสียหายอย่างในทุกวันนี้

“คนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของพรรคอื่นอย่างควรต้องกลับไปมองที่การอยู่รอดของพรรคตัวเองก่อนว่าจะยังเป็นพรรคที่ประชาชนยังเลือกอยู่ไหม อยากให้ไปจัดการปัญหาในพรรคตัวเองให้ดีก่อน ปล่อยให้พรรคเพื่อไทยเดินหน้าต่อไป ไม่ต้องห่วงค่ะ” นางสาวธีรรัตน์ กล่าว

Related posts