ปลุกเลือก ‘เพื่อไทย’ ให้ชนะถล่มทลาย ‘จาตุรนต์ ฉายแสง’ ชู แลนด์สไลด์ เพื่อชีวิตใหม่ประชาชน

ปลุกเลือก ‘เพื่อไทย’ ให้ชนะถล่มทลาย ‘จาตุรนต์ ฉายแสง’ ชู แลนด์สไลด์ เพื่อชีวิตใหม่ประชาชน หวังสานภารกิจสำคัญ สร้างประชาธิปไตยและผลักดันนโยบายแก้วิกฤตประเทศ ยก ‘ไทยรักไทย-พลังประชาชน-เพื่อไทย’ จิตวิญญาณ-อุดมการณ์ ‘หัวใจคือประชาชน’ ไม่เปลี่ยนแปลง

 

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทย 2565 ‘แลนด์สไลด์ เพื่อไทย เพื่อคนไทยทุกคน’ ว่า ครอบครัวเพื่อไทย มีมิติที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือการมีองค์ประกอบสำคัญของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีความผูกพันกันอย่างใกล้ชิด พรรคไทยรักไทยเป็นทั้งตัวแสดงและผู้ถูกกระทำ แม้พรรคจะถูกสั่งให้ยุบพรรคไป แต่จิตวิญญาณและอุดมการณ์ยังอยู่ โดยเฉพาะอุดมการณ์ หัวใจคือ ประชาชน


.
ต้นตอวิกฤตประเทศในวันนี้เกิดจากการผู้มีอำนาจที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน ไม่ยอมให้ประชาชนกำหนดการบริหารประเทศ ผ่านรัฐบาลที่มาจากากรเลือกตั้งของประชาชน ไม่ยอมให้เกิดรัฐบาลที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน แล้วไปทำให้เกิดระบบที่ไม่เป็นประชาธิปไตยจนนำมาสู่การมีรัฐบาลที่ไร้ความสามารถทำให้ประชาชนเสียหายเดือดร้อนกันในทุกวันนี้


.
พรรคไทยรักไทย ก่อเกิดขึ้นภายหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ขณะที่ประชาชนโหยหาทางออกจากวิกฤตประเทศ ต้องการผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และนโยบายที่ดี ทำให้เราได้มีผู้นำที่ตาดูดาว เท้าติดดิน ที่ชื่อ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่รวบรวมผู้คนมาร่วมกันคิดร่วมกันทำจนประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับจากประชาชน จนในการเลือกตั้งครั้งต่อมา ปี 2548 พรรคไทยรักไทยได้รับความไว้วางใจจากประชาชนถึง 377 เสียง มากที่สุดในประวัติศาสตร์


.
พรรคไทยรักไทยแก้ปัญหาความยากจนให้ประชาชนและสร้างความเป็นโมเดิร์นไนซ์ไทยแลนด์ แต่ต่อมาก็เกิดการรัฐประหาร 2549 จากการที่ผู้มีอำนาจไม่อาจทนเห็นได้ว่าประชาชนเป็นผู้กำหนดการบริหารประเทศ และทนไม่ได้ที่จะเห็นประชาชนหลุดพ้นจากความยากจน การรัฐประหาร 2549 คือ จุดเริ่มต้นของวิกฤต เพราะก่อการในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังดี ประชาชนกำลังได้ล้มตาอ้าปาก มีกินมีใช้ ประเทศกำลังก้าวไปเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคและระดับโลก


.
การรัฐประหารครั้งนั้นก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพรรคไทยรักไทย จากพรรคการเมืองที่นำนโยบายมาบริหารประเทศจนประสบความสำเร็จ แก้ปัญหาให้ประชาชนและพัฒนาประเทศ มาเป็นพรรคการเมืองที่ชูธงปกป้องประชาธิปไตย การยุบพรรคไทยรักไทย เป็นหนึ่งในแผนบันได 4 ขั้น แต่แผนนั้นก็ต้องล้มไป เพราะประชาชนไม่เอาด้วย เมื่อยุบพรรคไทยรักไทยก็ก่อเกิดพรรคพลังประชาชน ในการเลือกตั้ง ประชาชนก็เลือกเข้ามาเป็นรัฐบาลอีก ตบหน้าเผด็จการและแผนบันได 4 ขั้น


.
รัฐบาลพรรคพลังประชาชน ได้แสดงความต่อเนื่องของความเป็นพรรคการเมืองที่ชูธงประชาธิปไตย ด้วยการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับให้เป็นประชาธิปไตย หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดความเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลพรรคพลังประชาชนและการกระทำผิดกฎหมายร้ายแรงอย่างไม่มีข้อจำกัด เกิดการโค่นล้มรัฐบาล โค่นล้มนายกรัฐมนตรี 2 ท่านและยุบพรรคพลังประชาชนในที่สุด แต่การทำลายพรรคพลังประชาชนในครั้งนั้น ไม่ได้ทำลายจิตวิญญาณและอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่ฆ่าไม่ตาย จึงเกิดเป็นพรรคเพื่อไทย


.
ขณะเดียวกัน เมื่อพรรคเพื่อไทยลงเลือกตั้งก็ได้รับการตอบรับจากประชาชน และได้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามาบริหารประเทศอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็เกิดความเคลื่อนไหวเพื่อโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเหมือนเดิมอีก และพยายามสร้างความเข้าใจในหมู่ประชาชนว่า ถ้ามีรัฐบาลจากการเลือกตั้งบ้านเมืองก็จะวุ่นวายเหมือนที่เคยเกิดขึ้นและเป็นข้ออ้างให้เกิดการรัฐประหารในปี 2557


.
พรรคเพื่อไทย ในขณะนั้นคัดค้านการรัฐประหารและคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จนทำให้นักการเมืองของพรรคเพื่อไทย ถูกจับดำเนินคดีและต้องติดคุกเป็นคนแรกๆ หลังการรัฐประหาร
.
วิกฤตประเทศหนักขึ้น เพราะรัฐประหาร 2557 เพียงเพราะคำว่าต้องไม่ให้เสียของ ไม่ให้นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนมีอำนาจบริหารประเทศและประชาชนต้องไม่มีสิทธิมีเสียง แต่ผลเสียทั้งหลายก็เกิดขึ้นกับประเทศและประชาชน ระบบยุติธรรม ระบบการตรวจสอบถ่วงดุล สิทธิเสรีภาพถูกทำลายหมดและรัฐบาลที่ไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน เมื่อเกิดวิกฤตขึ้น หายนะจึงเกิดกับประชาชน


.
เบื้องหน้าของเรามีความท้าทายใหญ่ที่ประเทศต้องเผชิญ 8 ข้อ

1. เศรษฐกิจตกต่ำ
2. ไม่มีรายได้ ของแพง ค่าแรงต่ำ
3. หนี้สาธารณะสูง และเงินถูกใช้ไปอย่างสูญเปล่า หนี้ครัวเรือนสูง
4. ความเหลือมล้ำอันดับต้นๆ ของโลก
5. ขีดความสามารถต่ำ ล้าสมัยไม่ทันโลก การศึกษาไม่มีอนาคตสำหรับเยาวชน
6. สังคมสูงวัย
7. โลกร้อนที่ใกล้ตัวเข้ามาแต่ไม่มีการจัดการ
และ 8. การไม่มีเสรีภาพของประชาชนและความไม่เป็นประชาธิปไตยของประเทศ
.
แต่ขณะที่เราต้องเจอกับความท้าทายใหญ่แบบนี้กลับมีรัฐบาลแบบประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ข้อเดียว ก็ไม่สามารถแก้ได้
.
พรรคเพื่อไทย ที่มีความต่อเนื่องของผลักดันนโยบายในการแก้ไขปัญหาประชาชนและพัฒนาประเทศ รวมไปถึงการต่อสู้กับเผด็จการและเรียกร้องประชาธิปไตย ทำให้มีภารกิจสำคัญบนบ่าของทุกคนใน 2 มิติ คือ การสร้างนโยบายในการแก้ปัญหาให้ประชาชนและพัฒนาประเทศ ไปจนถึงการเดินหน้าสร้างประชาธิปไตย แต่การจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่ได้เป็นรัฐบาล ดังนั้นในการเลือกตั้งที่จะมาถึง เราต้องบอกกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมาว่า ถ้าจะแก้ปัญหาให้บ้านเมืองและทำให้พี่น้องพ้นจากความเดือดร้อน ต้องให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และเราต้องไม่ชนะธรรมดา แต่ต้องชนะอย่างถล่มทลาย ต้องแลนด์สไลด์เพื่อไทย แล้วเราจะทำให้ดียิ่งกว่าที่เคยทำมาในอดีต

//////////////

Related posts