‘เพื่อไทย’ ลงพื้นที่ยานนาวา เจอชาวบ้านระบายทุกข์ทั้งน้ำตาโควิดยังระบาดหนัก วอนผลักดัน นโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาลให้เป็นจริง
พรรคเพื่อไทย นำโดย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายดนุพร ปุณณกันต์ เลขานุการการเลือกตั้ง ส.ก. นางสาวขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายธีระพงษ์ มงคลวัฒนลีลา ผู้สมัคร ส.ก. เขตยานนาวา เบอร์ 1 และสมาชิกพรรคเพื่อไทยร่วมลงพื้นที่ชุมชนวัดช่องลมเพื่อรับฟังความเห็นของพี่น้องประชาชน โดยมีแกนนำและประชาชนในชุมชนคลองขวาง ชุมชนเชื้อเพลิงพัฒนา ชุมชนเย็นอากาศ ฯลฯ โดยมีตัวแทนของพรรคเพื่อไทยรับฟังความคิดเห็น ตอบคำถามและรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาล เพราะในช่วงสถานการณ์โควิด พี่น้องในชุมชนติดเชื้อโควิดเป็นจำนวนมาก พร้อมช่วยผลักดัน 50 เขต 50 โรงพยาบาล ให้เป็นจริง
นายภูเมธ รองประธานชุมชนเชื้อเพลิงพัฒนา กล่าวว่า ช่วงสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมาตัวเองและครอบครัว 14 คนติดเชื้อโควิด คนในชุมชนเชื้อเพลิงพัฒนาติดเชื้อโควิด 1 พันคน ตนเองติดเชื้อโควิดเพราะลงพื้นที่ช่วยพี่น้องในชุมชนจนติดโควิดและลามมาติดคนในบ้าน ตัวเองติดเชื้อโควิดลงปอด ตนต้องตระเวนหาโรงพยาบาลให้ผู้ติดเชื้อโควิดและตัวเอง ไปทั้งโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลกลาง ศูนย์พักคอยวัดดอกไม้ แต่เชื่อไหมว่า แม้แต่ตัวเองก็หาเตียงไม่ได้ ญาติในชุมชนตัวเองต้องเสียชีวิตระหว่างเดินทางไปหาโรงพยาบาลรักษา ตนจึงอยากถามว่า นโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาล จะต้องทำอย่างไร ขณะที่คุณแม่นก ประธานชุมชนเชื้อเพลิงพัฒนากล่าวว่า คนในชุมชนติดโควิด ตนโทรหาทุกเบอร์ฉุกเฉิน โทรหาทุกหน่วยงาน รอไปอีก 3 วันไม่มีหน่วยงานไหนตอบกลับ จนต้องพาคนป่วยขึ้นรถกระบะไปเข้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล แต่คำพูดที่หมอพูดกลับมาคือ “คนป่วยยังไม่โคม่า ยังไม่รับรักษา เตียงรักษาเต็มหมดแล้ว” ตนเองพูดไม่ออกอัดอั้นจนร้องไห้ก้มกราบหมอและพยาบาลตรงนั้นเพื่อขอร้องให้ช่วยรักษาชีวิตคนคนหนึ่งที่กำลังรอความตายอยู่ตรงหน้าด้วย นี่คือความเจ็บปวดและความสูญเสียในช่วงโควิดที่ผ่านมา เมื่อเห็นนโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาลแล้วดีใจมากจึงอยากถามแนวทางว่าจะดำเนินการโครงการนี้ให้สำเร็จได้อย่างไร
นายวิชาญ กล่าวว่า ในช่วงโควิดที่ผ่านมา กรุงเทพมหานคร ขาดระบบการจัดการเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดอย่างชัดเจน ไร้ประสิทธิภาพ ขาดการประสานงานและมีจำนวนเตียงไม่เพียงพอที่จะรับผู้ป่วยโควิดในระดับสีเหลืองและระดับสีแดง ในขณะที่ปัจจุบันนี้มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 5 หมื่นคน แต่ หน่วยงานที่ดูแล คือ สปสช. ไม่สามารถรองรับการรักษาได้อย่างเพียงพอ ดังนั้นจะต้องจัดระบบบริหารใหม่ เราขอเสนอให้ กทม. รับงบประมาณเงินกองทุนประกันสุขภาพจำนวน 15,000 ล้านบาทจาก สปสช. มาบริหารจัดการเองให้มีประสิทธิภาพ ยกระดับศูนย์บริการสาธารณสุขสังกัด กทม. ทั่วทุกเขต 50 เขต ต้องมีโรงพยาบาลในสังกัด กทม. อย่างน้อย 1 โรงพยาบาลในทุกเขต และจัดระบบบริหารรองรับผู้ป่วยในทุกเขตอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับผู้ป่วยช่วงโรคระบาดโควิดให้มีประสิทธิภาพต่อไป
นายดนุพร กล่าวว่า หน้าที่หลักของสมาชิกสภากรุงเทพมหานครหรือ ส.ก.นั้นต้องทำงานใกล้ชิดกับชาวกรุงเทพ ทำหน้าที่นิติบัญญัติในสภา กทม. มีหน้าที่อนุมัติแผนงานและงบประมาณปีละประมาณ 100,000 ล้านบาทต่อปี โดยแต่ก่อนนั้นประชาชนไม่ได้มีความตื่นตัวในการตรวจสอบการใช้งบประมาณในสภา กทม.เลย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เราจะมี ส.ก.เข้าไปเพื่อตรวจสอบ ผลักดัน และสนับสนุนนโยบายของฝ่ายบริหารเพื่อตรวจสอบการใช้งบประมาณของกทม.อย่างมีประสิทธิภาพ และให้งบประมาณได้ใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน กทม.อย่างแท้จริง
นายธีระพงษ์ มงคลวัฒนลีลา ผู้สมัคร ส.ก.เขตยานนาวา เบอร์ 1 กล่าวว่า ตนเองเกิดเติบโต และทำงานอยู่ในเขตยานนาวา ตนเห็นศักยภาพของเขตยานนาวาที่จะสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตยานนาวา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรามีวัดเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 4 วัด คือวัดทองบน วัดปริวาส วัดด่าน และวัดคลองภูมิ เราเห็นโอกาสส่งเสริมที่จะส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม เรามีความคิดสร้างทางเดินเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมวัดริมแม่น้ำให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวในชุมชน สนับสนุนให้มีการจัดตลาดนัดถนนคนเดิน ส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนมาเดินชมความงามของวัดในยามเย็น ส่งเสริมให้พ่อค้าแม่ค้านำสินค้าในชุมชนมาขายเสริมสร้างรายได้ให้ครอบครัว และเป็นการเพิ่มพื้นที่สาธารณะให้พี่น้องในชุมชนได้พักผ่อนแทนการไปห้างสรรพสินค้า และเป็นการส่งเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้สมาชิกในครอบครัวอีกด้วย
///////