เจ้าหน้าที่ป่าไม้สืบทราบจากสายข่าวว่าจะมีกลุ่มมอดไม้เข้ามาตัดไม้พยุงในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาอีโต้ จึงได้จัดกำลังตรวจสอบและเฝ้าดู ก่อนที่จะพบกับคนร้ายในขณะขนไม้ขึ้นรถแล้ว จึงแสดงตนเข้าจับกุม ทำให้แก๊งดังกล่าวไหวตัวทันหลบหนี ขับรถฝ่าด่านตรวจไปตามเส้นทาง เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ปืนยิงสกัดยางรถ เพื่อป้องกันการหลบหนี แต่คนร้ายได้พยายามขับหลบหนีไปประมาณ 5 กิโลเมตร ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะยิงขู่สกัดจับ และรถยางแตกไปต่อไม่ไหวจึงสิ้นฤทธิ์ ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เวลาต่อมา
วันนี้ 17 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 21.00 น. ได้รับแจ้งจากนายวิรัตน์ เจริญมงคล หน่วยป้องกันรักษาป่าที่1เขาอีโต้ ร่วมกับ ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองปราจีน กอ.รมน.ปราจีนบุรีโดยได้รับแจ้งจากสายข่าว ที่อยู่ในพื้นที่ว่าจะมีขบวนการลักลอบตัดไม้พยุงในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาอีโต้ เขตอำเภอเมืองปราจีนบุรี จึงได้จัดกำลังเฝ้าดู เบื้องต้นพบว่าในช่วงเย็น มีกลุ่มที่ตัดไม้นั้นได้ตัดไม้พยุงภายในป่าสงวนแห่งชาติเขาอีโต้ และได้นำไม้ดังกล่าวมาเตรียมอยู่บริเวณข้างทางรอการขนย้าย จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยดักซุ่มอยู่บริเวณดังกล่าว
ได้พบว่ามีกระบะ อีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน บพ 8183 ปราจีนบุรี โดยรถดังกล่าวมีชาย 2 คน ได้ลงมาขนไม้ที่ตัดอยู่บริเวณทางด้านข้างถนน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวจับกุม ทางด้านคนร้ายนั้น เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถพุ่งมาทางชุดจับกุม และหนีการจับกุม โดยขับรถลงมาตามเส้นทางถนนสุวรรณศร สาย 33 มุ่งหน้าอำเภอประจันตคาม โดยระหว่างหลบหนีนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการยิงยางเพื่อสกัดการหลบหนี แต่เนื่องด้วยยางรถด้านซ้ายทั้งหน้าทั้งหลัง โดนยิงสกัดตั้งแต่จุดที่พบ ทำให้รถคันดังกล่าวเสียหลักลงข้างทางบริเวณบ้านเนินไฮ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นด้านหลังกระบะรถนั้น พบไม้พยุงอยู่บริเวณหลังรถ 3 ท่อน โดยมีผ้าแสลนสีดำคลุมปกปิดอยู่ หลังจากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม้ดังกล่าวมีปริมาตร 0.36 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งตีเป็นมูลค่าอยู่ที่ราว 90,000 บาท แต่หลังจากแปรสภาพแล้วจะมีราคาเป็น 3-4 เท่า บริเวณชายล่างประตูฝั่งซ้ายมีร่องรอยการถูกอาวุธปืนลูกซองยิงจนเป็นรู
จากการสอบถามนายธนกฤต ราษี อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 44/3 ม.19 ต.เนินหอม อำเภอเมืองจังหวัดปราจีนบุรี และนายศรราม สร้อยทอง อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 2/1 ม.19 ต.เนินหอม จ.ปราจีนบุรี ผู้ต้องหาทั้งสอง ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้รับการติดต่อจากเพื่อนที่ชื่อนายโชค ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง ให้ทำการขึ้นไปขนไม้ที่อยู่บริเวณอุทยานเขาอีโต้ โดยจะให้ค่าขนไม้ดังกล่าวคนละ 2,000 บาท และเมื่อตนได้รับพิกัดจึงเดินทางขึ้นไปยังจุดดังกล่าว เพื่อทำการขนไม้พยุง แต่ระหว่างที่ตนจะขับลงจากเขาอีโต้นั้น
มีเจ้าหน้าที่อุทยาน มาสกัดจับตน จึงทำให้พวกตนตกใจ ได้ขับรถหลบหนีมาทางถนนเส้นเส้น 33 มุ่งหน้า อำเภอประจันตคาม แต่รถตนโดนสกัดโดยการยิงยาง ทำให้ เสียลงข้างทางจนถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมได้ ดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้คุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมและลงบันทึกการจับกุมแล้วจึงจะส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย ในข้อหาข้อ ทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พ.ร.บ.ไม้หวงห้าม อันยังมิได้แปรรูปไว้ในความครอบครอง ต่อไป
///////////ณัฐวัฒน์ กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี