ผลกระทบจากราคาเนื้อหมูและไข่ไก่แพง ทำให้ร้านอาหารหลายแห่งในจังหวัดกาฬสินธุ์ ต่างปรับตัวเพื่อประคับประคองกิจการหลากหลายวิธีเพื่อความอยู่รอด บางร้านเพิ่มราคาเมนูที่มีส่วนผสมของเนื้อหมูและไข่ไก่ หลายร้านงดบริการเมนูอาหารที่ปรุงจากเนื้อหมูและไข่ไก่ ในขณะที่มีร้านอาหารตามฤดูกาลผุดขึ้นมา เพื่อบริการนักเปิบอาหารพื้นบ้าน ปรับตัวสู้ราคาเนื้อหมูแพงเสิร์ฟเมนูพื้นบ้านตามฤดูแทน ซึ่งราคาถูกกว่าเนื้อหมูและไข่ไก่
[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=wdIq0gwLQt0[/embedyt]
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการขายอาหาร ตามร้านอาหารตามสั่งทั่วไปใน จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงราคาเนื้อหมูและไข่ไก่ยังมีราคาแพง ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วไป ต่างมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด และสามารถประคับประคองกิจการไปได้ โดยพบว่ามีการปรับกลยุทธ์บริการอาหารหลายวิธีการ เช่น บางร้านเพิ่มราคาเมนูที่มีส่วนผสมของเนื้อหมูและไข่ไก่จากเดิม 10-20 บาท หลายร้านเลือกที่จะงดเสิร์ฟอาหารที่ปรุงจากเนื้อหมูและไข่ไก่ ในขณะที่มีร้านอาหารตามฤดูกาลผุดขึ้นมากมาย เช่น ที่ร้านตั้งหลัก ในเขตเทศบาลตำบลยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งปรับตัวจากขายร้านอาหารตามสั่งทั่วไป ที่มีเนื้อหมูและไข่ไก่เป็นหลัก มาเป็นร้านอาหารประจำฤดูกาลแทน ปรับตัวสู้ราคาเนื้อหมูแพง โดยรับซื้ออาหารพื้นบ้านจากชาวบ้าน เช่น ปลาไหล กบ หนูนา และอาหารตามฤดูกาลต่างๆเป็นหลัก
นางสาวธรรศจรส (ทัด-จะ-รด) ภูภาษี อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 342 หมู่ 6 บ้านยางน้อย ต.ยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เจ้าของร้านตั้งหลัก กล่าวว่า เดิมเปิดร้านอาหารแซ่บอีสานที่กรุงเทพฯ พอเกิดสถานการณ์โควิด-19 และคุณยายเสียชีวิตไป ไม่มีใครอยู่เฝ้าบ้าน ตนกับแม่จึงกลับมาอยู่บ้าน โดยเปิดร้านอาหารชื่อร้านตั้งหลัก บริการอาหารตามสั่งและอาหารตามฤดูกาล ได้ประมาณ 1 เดือน แรกๆก็ค้าขายดี เนื่องจากร้านใหญ่ๆในตัวเมืองปิดกิจการไป ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ได้เกิดกระแสตีกลับให้ร้านเล็กๆ ค้าขายคล่องตัวบ้าง แต่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดภาวะเนื้อหมูและไข่ไก่ ที่จะนำมาปรุงอาหารบริการลูกค้าราคาสูงขึ้นถึง ก.ก.ละ 200 บาท ขณะราคาที่ไข่ไก่ก็สูงหลายเท่าตัว ทำให้ต้นทุนการทำอาหารแต่ละวันสูงขึ้น กำไรแทบจะไม่มีเลยแต่วัน
นางสาวธรรศจรส กล่าวอีกว่า
พอประสบปัญหาเนื้อหมูและไข่ไก่แพงดังกล่าว จึงลดปริมาณสั่งซื้อ และหันมาเสิร์ฟเมนูอาหารพื้นบ้านเป็นหลัก เช่น เมนูที่ทำจากปลาไหล กบ เขียด หนูนาและอาหารตามฤดูกาลต่างๆ เป็นการปรับตัวสู้ราคาเนื้อหมูแพง เปลี่ยนมาเสิร์ฟเมนูพื้นบ้านตามฤดูแทน ซึ่งราคาถูกกว่าเนื้อหมูและไข่ไก่ ซึ่งในเร็วๆนี้ก็จะมีไข่มดแดง อาหารขึ้นชื่อประจำอีสาน รวมทั้งประเภทแมลงต่างๆ ซึ่งจะมีให้ทานปีละครั้งเท่านั้น โดยทางร้านจะรับซื้อจากชาวบ้าน ที่ไปหาตามป่าชุมชนและตามหัวไร่ปลายนา นำมาปรุงเป็นอาหารประจำฤดูกาล ในราคาเริ่มต้นที่ไม่แพง เฉลี่ยชุดละ 80-120 บาท อย่างไรก็ตาม จากการขายอาหารตามฤดูกาล แทนการขายอาหารที่ปรุงจากเนื้อหมูและไข่ไก่ กระแสตอบรับดีมาก ทำให้ทางร้านพออยู่ได้ หากลูกชื่นชอบเมนูอาหารประจำฤดูกาลขอเชิญได้ เปิดให้บริการทุกวัน