“พิชัย” จับมือ “แคทเธอรีน ไท” ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ที่เปรู ดันไทยเป็นฐานผลิตสินค้าอุตสาหกรรมใหม่สหรัฐฯ ดันต่ออายุ GSP หลุดบัญชี Wacth List พร้อมเตรียมพบคณะสภาธุรกิจสหรัฐฯ – อาเซียน (USABC) 25 พ.ย.นี้
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในระหว่างเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปคและการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ตนและคณะได้หารือกับนางแคทเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า โดยเฉพาะการผลักดันการต่ออายุโครงการ GSP และส่งเสริมให้ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญ นอกจากนี้ในวันที่ 25 พ.ย. 2567 นายพิชัยยังมีกำหนดพบกับทัพนักธุรกิจ จากสภาธุรกิจสหรัฐฯ – อาเซียน (USABC) จำนวนกว่า 50 คน จากบริษัทชั้นนำของสหรัฐ อาทิ Amazon, Apple, Boeing, Citi, Google, Mastercard และ Seagate ที่กระทรวงพาณิชย์ เพื่อหารือแนวทางสนับสนุนนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ในการยกระดับเศรษฐกิจไทย พร้อมทั้งต่อยอดการเป็นพันธมิตรทางการค้ากับไทยต่อไปในอนาคต
โดยในการหารือกับ นางแคทเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ นายพิชัย เปิดเผยว่า ไทยและสหรัฐฯ เป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ซึ่งไทยพร้อมร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ระหว่างกัน โดยในการหารือไทยได้แสดงความยินดีต่อการสรุปผลแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IP Work Plan) ที่ทั้งสองประเทศได้ดำเนินการร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การปลดไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List) ซึ่งสหรัฐก็ได้เสนอว่าจะรีบดำเนินการให้เพราะไทยได้ทำตามที่สหรัฐต้องการ และรับปากว่าจะเอาไทยออกจาก Watch List ในเร็วๆนี้ นอกจากนี้ ไทยขอให้สหรัฐฯ พิจารณาเร่งรัดการต่ออายุการให้สิทธิ GSP ที่ได้หมดอายุไปเมื่อปลายปี 2563 ให้เสร็จโดยเร็ว เนื่องจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ ซึ่งสหรัฐรับที่จะนำกลับมาดำเนินการให้ไทย
โดยไทยได้แจ้งสหรัฐฯ ว่าพร้อมเป็นพันธมิตรด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการเป็นฐานการผลิตในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของสหรัฐฯ เช่น ดิจิทัล AI อิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ ผมได้ขอบคุณบริษัทดิจิทัลสัญชาติสหรัฐฯ อย่างบริษัท Google และ Amazon ที่ได้ยืนยันแผนการลงทุนในธุรกิจ Data Center และ Cloud Service ในไทย ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจดิจิทัลของภูมิภาค พร้อมทั้งได้เชิญชวนบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ อื่นๆ เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มอีกปลายเดือนนี้
“ตนจะเดินทางไปงานสหรัฐอเมริกาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งจะมีโอกาสได้เจอกับผู้นำทางการค้า ซึ่งได้ใช้โอกาสนี้พูดคุยกันไว้ก่อนแล้ว ซึ่งจะเป็นการไปพูดคุยว่าไทยเป็นมิตร และบริษัทในสหรัฐจะมาลงทุนในไทยเยอะ จึงควรจะเอื้อประโยชน์ให้ไทย ซึ่งหากจะเกิดสงครามการค้า ให้มองข้ามไทยไป นี่คือแนวทางของกระทรวงพาณิชย์ซึ่งทางท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ก็ให้นโยบายในการดำเนินการเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ไทยได้ประโยชน์สูงสุด” นายพิชัย กล่าว
ซึ่งก่อนหน้านี้นายพิชัยได้ นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ประชุมกับอัครราชทูต(ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานพาณิชย์ ณ กรุงวอชิงตัน ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ในภูมิภาคอเมริกาและลาตินอเมริกา และผู้นำเข้าสินค้าไทยรายใหญ่ของสหรัฐฯ ที่นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าในตลาดสหรัฐฯ ทำงานเป็นทีมพาณิชย์เชิงรุก ตามนโยบายของรัฐบาล เร่งหาโอกาสทางการค้า การลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่ไทย ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ยินดีส่งเสริมแก้ไขอุปสรรคทางการค้าและการลงทุนให้กับผู้ประกอบการภาคเอกชน เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน