ระยอง-ชาวบ้านหนองพะวา ไม่ทนบุกศาลากลางจังหวัด ยื่น 4 ข้อเรียกร้องต่อผู้ว่าฯ ย้ายสารเคมีอันตรายโรงงานไฟไหม้วินโพรเสส ถังแรกออกนอกพื้นที่ภายใน 30 วัน

ระยอง-ชาวบ้านหนองพะวา ไม่ทนบุกศาลากลางจังหวัด ยื่น 4 ข้อเรียกร้องต่อผู้ว่าฯ ย้ายสารเคมีอันตรายโรงงานไฟไหม้วินโพรเสส ถังแรกออกนอกพื้นที่ภายใน 30 วัน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 พ.ค.67 ที่วัดหนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านหนองพะวา พร้อมพระสงฆ์วัดหนองพะวา ม.4 ต.บางบุตร ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย กว่า 300 คน นำโดย น.ส.ผ่องพรรณ เจริญรมย์ กำนัน ต.บางบุตร ได้นัดรวมตัวกัน หลังได้รับความเดือดร้อนผลกระทบต่อความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน กรณีไฟไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมีวินโพรเสส ก่อนจะขึ้นรถ มุ่งหน้าเดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง ยื่นหนังสือ 4 ข้อเรียกร้องกับนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง ให้เร่งดำเนินการจัดการกากสารเคมีในโรงงานฯ

น.ส.ผ่องพรรณ เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บกากสารเคมีของ บ.วินโพรเสส จก. ที่ลักลอบกักเก็บสารเคมีอันตรายผิดกฎหมายจำนวนมาก ซึ่งเกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่เช้าวันที่ 22 เม.ย.67 จนถึงเวลานี้ยังไม่สามารถยับยั้งผลกระทบจากวิกฤติในครั้งนี้ได้ชาวบ้านในตำบลบางบุตร และใกล้เคียงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากกลิ่นสารเคมีอันตราย มีผลกระทบทางด้านความเป็นอยู่และสุขภาพ เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ มีอาการแสบตา แสบจมูก เกิดอาการอักเสบตามผิวหนัง และยังไม่ทราบอาการที่จะมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว
ชาวบ้านจึงต้องการให้ ผวจ.ระยอง ดำเนินการด่วนเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบดังนี้ 1.ขอให้จัดตั้งคณะกรรมการทำงานเพื่อกำหนดแผ่นงานในการจัดการภายใน 7 วัน และขอให้


เริ่มขนย้ายสารเคมีอันตรายถังแรกออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน ทั้งนี้ในส่วนของการขนย้ายสารเคมีอันตรายทั้งหมดต้องจัดการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน 2.ขอให้มีการตรวจสุขภาพเพื่อหาสารพิษปนเปื้อนในร่างกาย ผ่านการวินิจฉัยของแพทย์อย่างละเอียด และขอให้รายงานจำนวนผู้ป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและผื่นขึ้นตามผิวหนังในขณะนี้ว่ามีจำนวนกี่ราย และทางหน่วยงานสาธารณสุขมีแผนงานจะทำการรักษาและติดตามผลอย่างไรต่อไป 3. ขอให้จัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล ที่ป้องกันสารพิษ ให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบทันที รวมถึงพระภิกษุสงฆ์ และนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองพะวา และ 4. ขอให้มีการตรวจวัดคุณภาพอากาศตลอด 24 ชั่วโมง ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบผ่านบอร์ดหรือแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งนำข้อมูลเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย ก๊าซพิษ เผยแพร่อธิบายให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ได้รับทราบเพื่อจะได้วางแผนป้องกันตนเองต่อไปด้วย

 

นายไตรภพ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางจังหวัดได้ตั้งคณะทำงานรับเรื่องร้องทุกข์ที่ได้รับผลกระทบที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ที่ว่าการอำเภอบ้านค่าย อบต.บางบุตร อบต.หนองบัว คณะงานเยียวยา มี ปชช. ไปลงทะเบียนแล้วกว่า 700 คน จะใช้งบท้องถิ่นเยียวยารายละ 3,000 บาท และตั้งคณะทำงานติดตามช่วยเหลือและชดใช้เยียวยาค่าเสียหายระหว่างผู้รับผลกระทบและบริษัทวินโพรเสส เพื่อเร่งช่วยเหลือ ปชช. ให้ได้รับการเยียวยา ส่วนการขนกากสารเคมี เบื้องต้นได้พูดคุยกับกรมโรงงานฯ ทราบว่านายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานฯ ในวันศุกร์นี้ จะนำผู้รับเหมาที่รับกำจัดกากสารเคมี 3 ราย มาดูมาพื้นที่ เพื่อจะดำเนินการขนกากสารเคมีในโรงงานฯ

ซึ่งจะเร่งขนในวันเสาร์นี้ โดยนำเงินที่วางประกันที่ศาลฯ จำนวน 4.6 ลบ. มาดำเนินการในเบื้องต้น และส่วนที่เหลือให้ทางกรมโรงงานฯ เร่งดำเนินการขนย้ายไปก่อนค่อยของบประมาณส่วนกลางมาทีหลัง ส่วนการตรวจสุขภาพ ปชช. โดยเฉพาะพระสงฆ์ที่ได้รับผลกระทบเป็นผดผื่นคัน เบื้องต้นได้จัดชุดเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลเคลื่อนที่ได้ตั้งหน่วยตรวจสุขภาพ ปชช. และพระสงฆ์ที่วัดหนองพะวา จำนวน 15 รูป ทันที ส่วนการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันสารพิษแก่ ปชช เบื้องต้นไปขอหน้ากากป้องกันมาจากเอกชน จำนวน 20,000 ชุด โดยมอบให้กำนัน ต.บางบุตร ไปแจก ปชช. ก่อน 10,000 ชุด ส่วนอีก 10,000 ชุด สำรองไว้ที่ นอภ.บ้านค่าย ถ้าไม่พอจะขอเพิ่มเติมมาให้ ส่วนการตรวจวัดคุณภาพอากาศ 24 ชม.

ขณะนี้ได้ขอเครื่องมือตรวจวัดคุณภาพอากาศจากกรมควบคุมมลพิษ มาประจำไว้ที่ อบต.บางบุตร แต่ถ้า ปชช. คิดว่าไม่เพียงพอ จะประสาน บ.ไออาร์พีซีฯ และ กนอ. ขอรถโมบายตระเวนตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ ปชช. ส่วนกรณีที่กำนัน ต.บางบุตร ที่พาลูกบ้านมาร้องเรียนในวันนี้นั้น จะลงโทษหรือไม่นั้น สโลแกนกระทรวงมหาดไทยคือ ‘บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ปชช.’ ซึ่งตนเป็นคนระยอง พี่น้อง ปชช. เดือดร้อนมา ตนจะนิ่งดูดายได้อย่างไร ซึ่งกำนัน นำความทุกข์ชาวบ้านมาแจ้งผู้บังคับบัญชาอย่างนี้ ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยิ่ง ซึ่งไม่มีทางปลดกำนัน ผญบ. ซึ่งเป็นแขนขาในการทำงาน ขอยืนยันว่าทุกภาคส่วนเร่งทำงานแก้ไขเต็มมาตรการ แต่บางเรื่องติดข้อกฎหมายจำเป็นต้องรอ ต้องใช้เวลา

หลังชาวบ้านรับฟังการชี้แจงจาก ผวจ.ระยองแล้ว ยืนยันว่าพร้อมให้เวลาการทำงาน หากไม่มีความคืบหน้าพร้อมจะยกขบวนเดินทางมาพบ ผวจ.ระยองอีกครั้ง

Related posts