ระยอง-ความคืบหน้าโรงงานเก็บกากสารเคมีวินโพรเสส เกิดไฟปะทุขึ้นมาอีกบริเวณโกดังที่ 5 หลังเจ้าหน้าที่ใช้แบ็คโฮโกยกองสารเคมีออก โดยเกลี่ยให้ควันไฟหาย

ด้าน ผบก.ภ.จว.ระยอง ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และพนักงานสอบสวน เร่งเก็บพยานหลักฐานหาสาเหตุ เบื้องต้นสอบปากคำพยานบุคคลไป 20 ปากแล้ว ขณะที่เจ้าของโรงงานยังตามตัวมาสอบสวนไม่ได้ อ้างติดธุระอยู่นอกพื้นที่

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 28 เม.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรม วินโพรเสส ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เกิดเหตุไฟปะทุขึ้นมาอีก หลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ได้ให้รถแบคโฮเข้าไปโกยกองสารเคมีบริเวณโกดังที่ 5 โดยได้มีไฟลุกไหม้ขึ้นจากกองถังน้ำมัน 200 ลิตร ที่ทับถมกันอยู่เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ที่ขับรถแบคโฮ ต้องรีบนำรถออกมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าฉีดน้ำสกัดเพลิงดังกล่าว

ซึ่งบริเวณโกดังที่ 5 ยังมีกลุ่มควันอยู่บางจุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่นำรถแบคโฮเข้าไปโกย เพื่อเกลี่ยกองสารเคมีต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น หลังเกือบโดนไฟไหม้ ขณะที่โกดังที่ 3 เจ้าหน้าที่ได้เร่งใช้สารโซเดียม ไบคาร์บอเนต กลบช่องที่พบควันไฟลอยออก เพื่อเร่งดับไฟ ซึ่งบางจุดก็ยังมีควันลอยออกมาอยู่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการใช้ดินถม ทำให้เกิดมีช่องว่างของร่องดินและทราย ทำให้ยังพบมีกลุ่มจากความร้อนของอะลูมิเนียมกรอสด้านล่างอยู่

ด้าน พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.สราวุธ นุชนารถ ผกก.สภ.บ้านค่าย พ.ต.ท.วิรัตน์ เตชนันท์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านค่าย พ.ต.อ.ปาริฉัตร อั้นเต้ง นักวิทยาศาตร์ ( สบ.4) พิสูจน์หลักฐาน จ.ระยอง นำเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยใช้โดรนบินเก็บหลักฐาน

พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผบก.ภ.จว.ระยอง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเข้าตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด และสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ โดยเบื้องต้นได้ใช้โดรนบินเก็บภาพหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และพนักงานสอบสวนเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังเชื่อมั่นว่ามีพื้นที่มีความปลอดภัยแล้ว ยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด

ส่วนการสอบสวนพยานบุคคลขณะนี้ได้มีการสอบปากคำพยานบุคคลไปแล้ว 20 ปาก โดยเป็นพนักงานโรงงาน และ รปภ. รวม 5 ราย ส่วนที่เหลือเป็น ปชช. ที่อยู่ใกล้โรงงาน และที่เห็นเหตุการณ์ช่วงเกิดเหตุเพลิงไหม้ ส่วนเจ้าของโรงงานยังไม่สามารถติดตามตัวได้ โดยอ้างว่าติดธุระอยู่นอกพื้นที่จังหวัดระยอง ซึ่งจะได้เร่งตามตัวมาสอบสวนต่อไป

ส่วนสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 13 ชลบุรี ก็ได้มีการตรวจวัดคุณภาพอากาศจุดบริเวณใกล้โกดังที่ 3 ซึ่งพบว่ามีกลิ่นแอมโมเนียรุนแรงรัศมี 30 ม.อยู่ที่ระดับ 7-8 แต่ยังไม่อันตราย ผู้ที่ปฏิบัติงานหน้างานที่เกิดเหตุ ควรสวมใส่หน้ากากที่ป้องกันแอมโมเนียได้ด้วย

Related posts