เพชรบุรี-ป.ป.ท.นำทีมลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้กว่า2,000ไร่ หลังพบเข้าลักษณะเป็นเหตุจนท.รัฐทำเสียหายทางราชการอย่างร้ายแรง
จากกรณีสำนักไต่สวนคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภาค 7 นำทีมเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐ และขอออกเอกสารสิทธิ บริเวณพื้นที่ป่าไม้ และบริเวณทุ่งเลี้ยงสัตว์ดอนเขาพลวง ในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี บนเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีบุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐ และขอออกเอกสารสิทธิ เมื่อวันที่13 ก.พ.67ที่ผ่านมา
วันนี้16 มี.ค.67ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค.67 น.ส.ปภรดา เขียวประดิษฐ์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานป้องกันการทุจริตในภาครัฐ สำนักงาน ปปท.เขต7 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปท.เขต7 ลงพื้นที่ร่วมประชุมชี้แจง และลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้กว่า 2,000 ไร่ ในพื้นที่ตำบลเขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยมี นายแก้ว คงวงศ์ นายอำเภอชะอำ นายธีรพล ปรียานุภาพ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ปลัดอำเภองานบริหารงานปกครอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอชะอำ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และเทศบาลตำบลนายาง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต7
ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้กว่า 2,000 ไร่ ในพื้นที่ ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เข้าลักษณะเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง จากการลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณทุ่งเลี้ยงสัตว์ดอนเขาพลวง ม.4 บ้านห้วยหิน และพื้นที่ปลูกป่าไม้ ม.9 ต.ใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ที่มีพื้นที่ร่วมทั้งสิ้นกว่า 2,000 ไร่ ทาง ปปท. เขต7 ตรวจสอบทราบแล้วว่าเป็นพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงาน ป.ป.ช. โดยทาง ปปท.เขต7 จะช่วยติดตามข้อมูลจากหน่วยงานในพื้นที่ ที่ยังไม่จัดส่งข้อมูลให้ทางอำเภอชะอำเพื่อนำมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้การออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงบริเวณทุ่งเลี้ยงสัตว์ดอนเขาพลวงเป็นไปด้วยความเรียนร้อย และเพื่อป้องกันการบุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐ บนพื้นที่กว่า2,000 ไร่ ในอนาคตต่อไป
น.ส.ปภรดา เขียวประดิษฐ์ สำนักงาน ปปท.เขต7 เปิดเผยว่า วันนี้ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่จริง จากที่เทศบาลนายางแจ้งเอาไว้ว่าเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ กว่า 2,000 ไร่ ที่มีข้อพิพาทกันตลอดมา โดยล่าสุดมีการขอออกโฉนด นส.2 แต่ทางที่ดินถามมาทางเทศบาลจึงเป็นที่มาในวันนี้ จึงลงมาดูว่ามันมีสาเหตุอะไร ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าที่ดินผืนนี้เป็นข้อพิพาทกันมานานและยังไม่ได้ข้อสรุปกว่า 2,000 ไร่ แต่ปัจจุบันเหลือ 200 กว่าไร่ และยังมีการทำหนังสือถึงจังหวัดว่าขอให้ที่ดินระงับ ในเรื่องของการออกโฉนดที่ดินไว้ก่อน จึงลองดูพื้นที่จริงตรวจสอบ พื้นที่สาธารณะประโยชน์ของอำเภอว่าถูกต้องหรือไม่ โดยหลังจากนี้ต้องมีข้อสรุปและการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนร่วมกัน ลงพื้นที่ตรวจสอบแนวเขตให้ชัดเจนอีกครั้งหากพบกระทำความผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมาย อีกทั้งทางสำนักงาน ปปช. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบไปแล้ว ในเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เรื่องการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐ ที่เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวทาง ปปท.มองว่าเป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ที่ยังคงต้องรักษาต่อไป
/////////////// บรรณรต