ระยอง-ตร.สภ.กร่ำ ฟัน 4 ข้อหาหนักแก๊งเขมรทำร้ายร่างกายวัยรุ่นไทยได้รับบาดเจ็บ พร้อมติดตามจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งที่เหลือ และขยายผลหาตัวคนโพสต์ลงโซเชียลที่ประกาศจะฆ่าคนไทยทุกคนด้วย
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2566 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง นานไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.ศิริชัย ธาราธาร ผกก.สภ.บ้านกร่ำ อ.แกลง แถลงข่าวจับกุมแก๊งวัยรุ่นชาวกัมพูชาที่ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกายใช้ระเบิดปิงปาใส่รถ จยย.วัยรุ่นในพื้นที่ จนเสียหลักล้ม ก่อนจะลงมาใช้อาวุธมีดฟันจนได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดพื้นที่ ต.กร่ำ อ.แกลง เมื่อคืนวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยจับกุมได้ 3 ราย ประกอบด้วย นายหง ลี นายเทีย รา อายุ 19 ปี และนายมั๊บ อายุ 24 ปี แจ้ง 4 ข้อหาหนัก ‘พยายามฆ่า มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและโดยปราศจากเหตุอันสมควร รวมทั้งเป็นบุคคลต่างด้าว(กัมพูชา)หลบหนีเข้าเมืองและอยู่ราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต’
ส่งตัวดำเนินคดี พร้อมยึดของกลาง มีกระสุนปืนลูกซองขนาดเบอร์ 12 จำนวน 17 นัด มีดดาบซามูไร 3 เล่ม มีดสปาร์ต้า 2 เล่ม หมวกกันน็อค 3 ใบ และชิ้นส่วนผลิตระเบิดที่ถูกแกะออกจำนวนหนึ่ง โดยยึดไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งจากการสอบปากคำทั้ง 3 คน สารภาพมีมูลเหตุจูงใจจากเรื่องส่วนตัวระหว่างกลุ่มวัยรุ่นชาวกัมพูชา และกลุ่มวัยรุ่นคนไทย โดยวันเกิดเหตุได้มีการนัดในเฟสบุ๊คกัน โดยตกลงกันมาชกต่อยกันแต่ผู้ต้องหาได้นำอาวุธปืนมาด้วย ได้ยิงผู้เสียหายแต่ไม่ถูก จึงใช้อาวุธมีดฟันผู้เสียหายจนแน่นิ่ง จึงหลบหนีไป โดยหลังเกิดเหตุได้นำอาวุธปืน ไม่ทราบชนิดไปทิ้ง เนื่องจากจำสถานที่ไม่ได้ เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน และเร่งรีบทิ้ง ซึ่งจากนี้จะมีการสอบปากคำพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม และเร่งค้นหาอาวุธปืน และอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ พร้อมกับจะขออนุมัติหมายจับเพื่อนร่วมแก๊งที่เหลือต่อไป
นายไตรภพ กล่าวว่า แรงงานชาวกัมพูชาที่ก่อเหตุ เป็นแรงงานมารับจ้างในพื้นที่ที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเป็นความสมัครใจของทั้ง 2 กลุ่มวัยรุ่น นัดกันมาก่อเหตุกัน ซึ่งจะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายทั้ง 2 กลุ่มอย่างตรงไปตรงมาและเต็มที่ ทั้งนี้ในส่วนมาตรการดูแลเรื่องแรงงาน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจสอดส่องดูแลไม่ให้ทะเลาะกันอีก และกำชับนายจ้างให้ดูแลลูกจ้างชาวต่างด้าวไม่ให้มาก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับคนไทยอีก หากเกิดเหตุขึ้นมาอีกจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป ส่วนที่มีการโพสต์ลงในโซเชียลท้าทายและจะฆ่าคนไทยนั้น ในเรื่องนี้บ้านเมืองมีกฎหมายจะทำอย่างนี้ไม่ได้ ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างความรู้สึกร้าวฉานต่อกันในหมู่พี่น้องชาวไทย และชาวกัมพูชา ซึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล หรือความคึกคะนอง อย่างไรก็ตามจะมีการสอบสวนขยายผลที่ชัดเจนต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ กล่าวว่า ในประเด็นที่มีการโพสต์ข้อความลักษณะที่ปรากฏในโซเชียลดังกล่าวนั้น ทาง พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 มีความกังวล และห่วงใยในเรื่องที่โพสต์อาจสร้างความเกลียดชังเกิดขึ้นซึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล และบุคคลที่ปรากฏในโซเชียลทั้ง 17 คน ก็จะสืบหาสอบสวนว่าบุคคลใดเป็นคนโพสต์ลงในเฟสบุ๊ค และบุคคลในภาพดังกล่าว หากพบการกระทำความผิดก็จะดำเนินคดีโดยให้ความยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่ายด้วย.