โฆษกพรรคประชาชาติ ยัน พรรคผลักดัน พ.ร.บ.สันติภาพ ตลอดจนการอำนวยความยุติธรรมดับไฟใต้ รัฐบาลอาจต้องมีปรับคณะพูดคุยสันติสุขใหม่ พร้อมขอโอกาสพรรคทำหน้าที่เพื่อประชาชน
นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ โฆษกพรรคประชาชาติ แถลงขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุนและพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสื่อมวลนใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในทุกมิติของการเปิดพื้นที่การสื่อสาร ระหว่างพรรคประชาชาติกับประชาชน โดยมีสื่อมวลชน จาก 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมพิธี
นายกมลศักดิ์ฯ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณประชาชนเขต บาเจาะ รือเสาะ ศรีสาคร ในเขตพื้นที่ของตน และขอบคุณพี่น้องประชาชนทั้งหมดที่ได้ลงคะแนนเสียงให้กับพรรคประชาชาติ จนเราได้ปาร์ตี้ลิสต์ 2 และ สส.7 รวม 9 ท่าน ขอบคุณที่ให้โอกาสเราได้ร่วมรัฐบาล โดยสรุปพรรคประชาชาติเราได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการฯ 1 ตำแหน่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้รับโปรดเกล้าแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และขอบคุณอีกครั้ง หลังจาก หัวหน้าพรรคคนเดิมคือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ได้รับตำแหน่ง ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำให้ท่านต้องลาออกจากหัวหน้าพรรค พรรคประชาชาติ มีความจำเป็นต้องเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ และถือโอกาส ปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรค และเลือกคณะกรรมการบริหารใหม่ทั้งหมด ในวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ผมได้รับเลือกจากสมาชิก เป็น โฆษกพรรค ขณะเดียวกัน ผู้ที่ได้รับเลือกจากสมาชิก คะแนนอย่างท้วมทน คือ เป็นหัวหน้าพรรค ให้เติบโตไปข้างหน้า คือ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ
ในโอกาสที่รับตำแหน่งใหม่ โฆษกพรรค พยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ให้เติมกว่าที่ผ่านมา หลังจากนี้ไปจึงเป็นโจทย์สำคัญ พรรคประชาชาติ เราต้องการก้าวไปนอกพื้นที่สามจังหวัด จึงจะมีศักดิ์ภาพในทางการเมือง ที่จะทำให้พรรคประชาชาติมีพลัง มากขึ้น ในการดูแลประชาชน จึงจะต้องคิดที่จะหาทางทีจะให้ได้สส.มากขึ้น
ขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่มาร่วมมาให้คำแนะนำชี้แนะ รวมทั้งในเรื่องของการทำความเข้าใจ การสื่อสาร การประชาสัมพันธิ์ ต่อพี่น้องประชาชน และอีกหลายๆประเด็น เป็นเรื่องปกติที่เมื่อมีความเปลี่ยนแปลง บางท่านอาจเกิดความเข้าใจที่คาดเคลื่อน ยังไม่ทราบเป้าหมาย ขอเวลาได้ทำหน้าที่และขอถือโอกาส ที่ได้รับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เชื่อว่าโดยประสบการณ์ที่ ท่านเคยทำหน้าที่เป็นเลขาธิการ ศอ.บต. และโดยส่วนตัวที่ เราคุยมาตลอด มีสโคบงาน ที่เราคิดจะทำให้พี่น้องในพื้นที่ ไม่ใช่เฉพาะสามจังหวัดแต่ในสามจังหวัดเป็นพื้นที่ทีเรามี สส. พี่น้องต้องจับต้องได้ มีการเปลี่ยนแปลงในประเด็นความยุตธรรม การสร้างสันติสุข อาจจะไม่ใช่ว่า เมื่อท่านทวี มาทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมแล้วเหตุการณ์จะสงบ แต่เป็นทิศทางที่น่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ต้องยอมรับว่าปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีมานาน คงไม่ใช่เวลาเพียงแค่ยุครัฐบาลชุดนี้แต่ว่าในทางที่ดีขึ้นจับต้องได้
ต่อข้อถาม การผลัดดันเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการ พ.ร.บ.สันติภาพ จากนี้ไปจะเป็นอย่างไร ภายใต้พรรคประชาชาติ ในเรื่องดังกล่าว นายกมลศักดิ์ โฆษกพรรกประชาชาติกล่าวว่า พรรคประชาชาติ มีนโยบายของเราไม่เฉพาะแต่เรื่องความเป็นธรรม และอำนวยความยุติธรรม เรื่องของความรับผิดชอบแค่กระทรวงยุติธรรม เราพยายามจะสร้างคอนเนคชั่น ก็คือเชื่อมกับกระทรวงอื่นๆ เชื่อมั่นในศักดิ์ภาพของหัวหน้าพรรคโดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง จะสามารถที่จะเชื่อมกับกระทรวงอื่นๆ เพื่อนำพานโยบายที่เคยประกาศไว้กับพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และพี่น้องทั่วประเทศ ภายใต้นโยบายพหุวัฒนธรรม ถ้าประชาชาติเราจะโต เราจะต้องนำนโยบาย สังคมพหุวัฒนธรรม เดินหน้า เป็นพรรคที่มีความรู้สึกว่าต้นทุนเราอยู่ที่นี้ แต่พรรคเราเป็นของคนทุกคนของคนทั้งประเทศ เพราะว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่องรัฐมนตรีว่าการฯ เมื่อไปอยู่ตรงนั้นต้องดูแลทั้งประเทศ ความเป็นธรรมต้องเกิดขึ้นกับพี่น้องทั้งประเทศ เพียงแต่ว่าบริบทในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในเรื่องของความเป็นธรรม มีความแตกต่างจากที่อื่น จะต้องเน้นและเปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆกับพื้นที่อื่นนั้นคือเป็นเรื่องปกติ
นโยบายกระบวนการสร้างสันติภาพ ที่จะนำไปสู่สันติภาพในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีมานานทุกยุคทุกรัฐบาล ที่นี้ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ ตอนนี้ทางพรรคร่วมรัฐบาลพยายามรวมนโยบายของพรรคเพื่อที่จะไปแถลงสภา ประชาชาติก็เป็นหนึ่งในพรรคที่มีนโยบายเกี่ยวกับกระบวนการสันติภาพ แน่นอนอยู่แล้ว การพูดคุยเจรจามี 3 ครั้งที่ผ่านมา เกิดการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล แต่เราเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นภายภาคหน้า น่าจะเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นที่ผ่านมารัฐบาลชุดใหม่น่าจะต้องหันมามอง แต่สิ่งที่น่ายินดีที่สุด ที่ผ่านมา สภาเปิดรัฐบาลยังไม่เกิด พรรคประชาชาติ ได้ยื่นญัตติบรรจุในระเบียบวาระ นั้นคือญัตติตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณากระบวนการสันติภาพชายแดนใต้ ตอนนี้มีสามพรรคที่เสนอ เป็นญัตติที่มีหลักการและเหตุผลเดียวกัน คือ พรรคก้าวไกล พรรคประชาชาติ พรรคภูมิใจไทย
อยากขอโอกาสให้รัฐบาลได้ทำงาน และขอเวลาจากประชาชน ทำความเข้าใจ จุดยื่นของเราเหมือนเดิม สิ่งที่เราเคยมีจุดยืนในเรื่องของกฎหมายอะไรที่ไม่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ อะไรก็เหมือนเดิน ขอโอกาสกับพี่น้องประชาชนให้พรรคประชาชาติได้ทำงาน ส่วนรายละเอียดจะทำอะไรบ้าง รอแถลงนโยบาย ไม่น่าเกิด 1-2 อาทิตย์นี้ ที่จะมีการแถลงนโยบาย พรรคประชาชาติยังต้องเดินหน้าหน้า เพื่อนำการพัฒนาสู่ประชาชนพื้นที่และความมั่นคงให้ประเทศชาติอย่างต่อเนื่องต่อไป
ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส