พิจิตรภัยแล้งคุกคามนาข้าว วินัยส.ส.เมืองชาละวันประสานขอฝนหลวงช่วยเร่งด่วนในช่วง10วันนี้
วันที่ 24 สิงหาคม 2566 นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ ส.ส.พิจิตร เขต2 ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าว ว่า ได้รับการร้องทุกข์จากเกษตรกรที่ทำนาปลูกข้าวในเขตพื้นที่ อ.สากเหล็ก อ.วังทรายพูน อ.ทับคล้อ อ.ดงเจริญ อ.ตะพานหิน นาข้าวหลายหมื่นไร่ต้นข้าวขาดน้ำกำลังจะแห้งตาย เนื่องจากฝนทิ้งช่วง หรือ ถึงแม้จะมีฝนตกลงมาก็มีปริมาณน้อยนิดไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของต้นข้าว จึงได้ทำหนังสือขอความช่วยเหลือไปยัง กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ว่าขอให้ช่วยเพิ่มความถี่ในการขึ้นบินโปรยสารเคมีเพื่อทำฝนหลวงช่วยชาวนาพิจิตร ซึ่งก็ได้รับการอนุมัติตอบรับว่าจะดำเนินการตามที่ร้องขอมา
ล่าสุดวันนี้ นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ ส.ส.พิจิตร เขต2 ได้มอบหมายให้ นายดุสิต ยิ้มบิตุรงค์ รองประธาน สภา อบจ.พิจิตร , นายวิทยา กรวยศิริวงษ์ ผู้ช่วย ส.ส. , น.ส.จิณณพัต ภู่ชื่อ ผู้ช่วย ส.ส. เดินทางไปประสานกับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลางจังหวัดนครสวรรค์
โดย นายรัฐกร วรุณสุขะศิริ ผอ. ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง กองปฏิบัติการฝนหลวง กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ให้การต้อนรับและให้ข้อมูลว่า การบินขึ้นทำฝนหลวงในแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายครั้งละ 3 แสนบาท จากสถานการณ์ภัยแล้งในช่วงนี้กรมฝนหลวงจึงได้มอบหมายภารกิจเร่งด่วนในช่วงระหว่างวันที่ 23-31 ส.ค. 66 ให้ดำเนินการขึ้นบินเพื่อโปรยสารเคมีสร้างก้อนเมฆทำฝนเพื่อเร่งช่วยแก้ไขพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง โดยเฉพาะในเขตภาคเหนือตอนล่างที่รวมถึงจังหวัดพิจิตร และภาคกลางแถบจังหวัด ลพบุรี , สระบุรี , กาญจนบุรี ,สุพรรณบุรี โดยใช้เครื่องบิน 2 เครื่องสำหรับภารกิจในช่วง 10 วันนี้
ซึ่งก็มีความหวังและคาดว่า การขึ้นบินเพื่อทำฝนหลวงแต่ละครั้งต้องให้มีฝนตกลงมา ซึ่งจะช่วยเหลือเกษตรกรได้บ้างในบางพื้นที่ แต่อาจช่วยได้ไม่ครบหรือไม่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศของแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะบางพื้นที่ที่เกิดปัยหาภัยแล้งยาวนานต่อเนื่องซ้ำซากบริเวณนั้นไม่มีต้นไม้ ไม่มีป่า ไม่มีภูเขา จึงมำให้มีความชื้นต่ำในการทำฝนหลวงที่จะเสริมธรรมชาติในการสร้างเมฆหรือดึงเมฆให้รวมตัวก่อตัวเป็นเมฆฝนจึงทำได้ยากลำบากแต่ก็ขอยืนยันว่ากรมฝนหลวงจะทำอย่างเต็มที่เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตภัยแล้งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้อีกด้วย
สิทธิพจน์ / พิจิตร/