สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสมาคมโทรคมนาคมฯ ชี้แจงการสวมซิม (SIM SWAP)

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสมาคมโทรคมนาคมฯ ชี้แจงการสวมซิม (SIM SWAP)

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร./หัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนกรณีมีการแชร์ในโลกโซเชียลเกี่ยวกับการสวมซิม (SIM SWAP) เพื่อควบคุมเครื่องโทรศัพท์และโอนเงินออกจากบัญชีไป จึงได้ร่วมกับสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ แถลงข่าว เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2566 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


ตามที่มีการแชร์ในโซเชียล ว่าขณะนี้มีการหลอกลวงทางเทคโนโลยีขั้นสูงที่เรียกว่า SIM SWAP FRAUD เริ่มจากขณะใช้งานโทรศัพท์อยู่ตามปกติ เครือข่ายโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ (Zero Bar) เป็นระยะเวลาหนึ่ง หลังจากนั้นไม่นาน มีโทรศัพท์อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือแจ้งว่ามีปัญหาเครือข่ายสัญญาณมือถือ จากนั้นแนะนำให้กด 1 เพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายอีกครั้ง เมื่อกด 1 เครือข่ายจะปรากฏขึ้นทันทีชั่วคราวและจะไม่มีสัญญาณอีกครั้ง (Zero Bar) ช่วงนี้คนร้ายได้ควบคุมเครื่องโทรศัพท์และโอนเงินออกจากบัญชีไป ขณะที่เจ้าของโทรศัพท์จะไม่ได้รับการแจ้งเตือนใด ๆ เนื่องจากซิมถูกเปลี่ยนขณะที่มือถือถูกตัดสัญญาณโทรศัพท์


พ.ต.อ.ก้องกฤษฎา กิตติถิระพงษ์ รองผบก.ตอท.และ คุณเลิศรัตน์ รตะนานุกูล กรรมการบริหารและประชาสัมพันธ์ สมาคมโทรคมนาคมฯ ได้ชี้แจงว่า กรณีที่อาจโดนมิจฉาชีพสวมรอยหรือลักลอบการใช้ SIM นั้น ปัจจุบันผู้ให้บริการ และ กสทช. ในฐานะองค์กรกำกับดูแลได้มีมาตรการป้องกันกรณีการสวมสิทธิ์ออก SIM ทดแทน การแอบอ้าง รวมถึงในแง่เทคนิคซึ่งกรณีดังกล่าวจึงไม่อาจเกิดขึ้นได้หรือมีความเป็นไปได้น้อยมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการตื่นตระหนก จึงขอชี้แจงให้ทราบโดยทั่วกันว่า ข้อความที่ส่งต่อกันทางออนไลน์คือ Fake News หากมีผู้ใดได้รับความเสียหายจากการสวมซิม (SIM SWAP SCAM) ดังกล่าว

กรุณาแจ้งได้ที่เว็บไซต์สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ http://tct.or.th , http://www.facebook.com/tct.or.th หรือโทร. 02-0033781-2 หรือมีข้อสงสัย ให้โทรแจ้งสายด่วน 1441 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีถูกคนร้ายหลอกลวงแจ้งความตำรวจผ่านระบบ www.thaipoliceonline.com
ทั้งนี้ประชาชน สามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ได้จาก เว็บไซต์ www.เตือนภัยออนไลน์.com หรือโทรสายด่วน 1441

Related posts