นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโสฝ่ายสืบสวนสอบสวนและการศึกษา สำนักงานอัยการสูงสุด ระบุไม่ให้ความสำคัญเสียง ส.ว. ต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ย้ำรัฐบาลใหม่ต้องเป็นไปตามหลักการของประชาธิปไตย ฟันธง “พิธา” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย
วันที่ 9 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโอกาสที่นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโสฝ่ายสืบสวนสอบสวนและการศึกษา สำนักงานอัยการสูงสุด และในฐานะประธานกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ได้เดินทางมาวิทยากรพิเศษ อบรมให้ความรู้กฎหมายสินเชื่อ และกฎหมายติดตามหนี้ที่ควรรู้ แก่ผู้บริหาร คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ทุกแห่งใน จ.กาฬสินธุ์ จัดโดยสันนิบาตสหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.66 ที่ผ่านมา ณ หอประชุมสำนักงานสหกรณ์กมลาไสย จำกัด อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์
โดยในตอนหนึ่ง นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ได้ให้ทรรศนะเกี่ยวกับการเมืองไทยในขณะนี้ว่า เราผ่านการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งล่าสุด มา 1 เดือนเศษ แต่ยังไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล ขณะที่มีหลายกระแสเสียงออกมาอย่างนั้นอย่างนี้ออกมามากมาย จนทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความไขว้เขว โดยส่วนตัวอยากถามว่า พรรคการเมืองไหนก็ตาม ส.ส.ท่านใดก็ตาม คุณมีหัวใจเป็นประชาธิปไตยไหม เมื่อพรรคก้าวไกลได้เสียงข้างมาก ก็ต้องให้การสนับสนุน ต้องเคารพทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ไม่ใช่ว่าจะเสนอคนเข้ามาแข่งขัน มันไม่ใช่
นายปรเมศร์กล่าวอีกว่า ผมว่าอย่างนั้นมันไม่ถูก และเชื่อว่า ส.ส.ทุกท่านมีหัวใจเป็นประชาธิปไตย ทุกคนต้องยอมรับเสียงข้างมาก และต้องยึดถือหลักการ วันนี้เราต้องเดินหน้า ให้โอกาสพรรคที่ได้คะแนนสูงสุด ซึ่งก็คือพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล ทำหน้าที่บริหารประเทศ
“ในส่วนเสียงของ ส.ว.ที่จะให้การสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนนั้น ผมมองว่า ส.ว.มี 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่เคยเป็นผู้ว่าฯ อาจจะไม่โหวตให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะคงจะไม่อยากให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด และส.ว.อีกกลุ่มหนึ่งนั้นมีลูกมีหลานเป็นคนรุ่นใหม่ ที่เลือกพรรคและผู้สมัครจากพรรคก้าวไกลเข้ามา ที่คงจะเข้าทำนองคุณลูกขอร้อง ต้องลงคะแนนเลือกพิธา อย่างไรก็ตาม ไม่ว่า ส.ว.จะให้การสนับสนุนนายพิธาหรือไม่ แต่ผมคิดว่าเสียงของ ส.ว.ไม่มีผลต่อคะแนนโหวตนายกรัฐมนตรี รัฐบาลใหม่ต้องเป็นไปตามหลักการของประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรีคนใหม่ คนที่ 30 ของไทยต้องเป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขอฟันธง” นายปรเมศร์กล่าวด้วยความมั่นใจ