จากกระแสการเลี้ยงตั๊กแตนคึกคักทำให้เงินสะพัดในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์รายได้อย่างงามทำให้พ่อค้าแม่ขายยิ้มออกที่จัดจำหน่ายหญ้าหวานริมทางมีรายได้เพิ่มมากขึ้นวางเท่าไหร่ก็หมดเบื้องต้นทำให้แปลงปลูกหญ้าหวานเพิ่มจำนวนมากถึง 1,500 ไร่ทั่วทั้งตำบลโพนทอง
วันที่ 6 กรกฎาคม 2566 ที่บริเวณทางหลวงจากตัวจ.กาฬสินธุ์ไปยังอ.สมเด็จ ในพื้นที่ ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พบร้านที่จัดจำหน่ายหญ้าชนิดต่างๆตั้งเรียงรายตามขอบทางหลวงจำนวนมากกว่า 10 ร้านมีรถจอดสอบถามราคาพร้อมแวะซื้อหญ้าสด หรือลำหญ้าสดที่สามารถนำไปปลูกขยายพันธุ์ให้เป็นอาหารของสัตว์เลี้ยงชนิดต่าง ๆ ประกอบไปด้วย หญ้าท้ายเขื่อนซูปเปอร์ลิฟ หญ้าหวานอิสราเอล หญ้าจักรพรรดิ์นรก หญ้าเนเปียปากช่อง หญ้าเนเปียแคระ เป็นต้น ความต้องการหญ้าที่นำไปเป็นอาหารสัตว์เลี้ยงมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น จากกระแสการเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้าทำให้เกษตรกรมีความต้องการอาหารจำพวกหญ้าเพื่อนำไปเลี้ยงสัตว์เพิ่มจำนวนมากขึ้นเป็นเท่าตัวหรือเป็นปรากฎการณ์ที่น่าสนใจในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์มีการเพิ่มพื้นที่ปลูกหญ้ามากขึ้นเท่าตัว จากปกติพื้นที่ปลูกหญ้าใน ต.โพนทองมีประมาณ 500-600 ไร่ แต่ขณะนี้ได้เพิ่มพื้นที่ปลูกหญ้ามากขึ้นเกือบ 1,500 ไร่ เพื่อให้มีหญ้าเพียงพอต่อความต้องการของตลาดเพื่อจำหน่ายเกษตรกรที่นำไปให้สัตว์เลี้ยง
นายประเมฆ วรรณสาร อายุ 60 ปี ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เป็นเกษตรกรที่ยึดอาชีพปลูกหญ้ากับครอบครัวประมาณ 10 กว่าปี ส่วนของราคาหญ้าในแต่ฤดูแตกต่างกัน แต่ถ้าในหน้าร้อน ฤดูแล้งการจำหน่ายราคาจะดีกว่าหน้าฝน เพราะฤดูฝนมีหญ้าที่เกิดจากธรรมชาติทำให้ราคาลดลง ถ้าหน้าฝนขาย 6 มัด 100 บาท ถ้าหน้าแล้ง 3 มัด 100 บาท สำหรับพื้นที่ใช้ปลูกหญ้าไว้จำหน่ายประมาณ 7 ไร่เศษโดยที่ร้านจำหน่ายหญ้าหลายชนิด เช่น หญ้าท้ายเขื่อนซูปเปอร์ลิฟ หญ้าหวานอิสราเอล หญ้าจักรพรรดิ์นรก หญ้าเนเปียปากช่อง หญ้าเนเปียแคระ โดยทางร้านขายลำหญ้าท้ายเขื่อนซูปเปอร์ลิฟ ถุงละ 50 บาท ส่วนหญ้าหวานอิสราเอลทำเป็นมัดผูกเชือกฟางขาย 6 มัด จำหน่ายในราคา 100 บาท ขายมัดละ 20 บาท รายได้โดยประมาณตกเดือนละ 20,000 กว่าบาท จากกระแสการเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้าในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ทำให้การขายหญ้าราคาดีการเงินมีสภาพคล่องตัวรายได้เพิ่มมากขึ้นเพราะตั๊กแตนเป็นแมลงที่ต้องกินตลอดเวลา ส่วนมากลูกค้าที่จะซื้อหญ้าให้เป็นอาหารสัตว์จะเป็นเกษตรกรที่เลี้ยงวัวควายเป็นหลัก จากกระแสดังกล่าวทำให้ตอนนี้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมีรายได้เพิ่มมากขึ้นส่วนรายจ่ายประจำคือส่งลูกเรียนหนังสือ
ส่วนนางมุข ปาทะวาท อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 138 ม. 2 ต.ฆ้องชัย อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า วันนี้มาเลือกหาซื้อพันธุ์หญ้าเพื่อนำไปปลูกเอาไว้เป็นอาหารสัตว์และเป็นอาหารเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้า เพราะในหญ้าหวานมีสารอาหารที่มีวิตามินสูงทำให้ตั๊กแตนมีความเจริญเติบโตที่ดีมีน้ำหนักและมีรสชาติที่อร่อยถูกปากลูกค้า ถ้าจะซื้อตั๊กแตนที่เป็นตัวไปทอดขายราคาก็แพงจึงได้หัดมาทดลองเลี้ยงตั๊กแตนได้ไม่นานโดยศึกษาข้อมูลในสื่อโซเชียล โดยขณะนี้ที่บ้านได้จำหน่ายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์และไข่ตั๊กแตนปาทังก้าได้แล้วและประกอบกับตนมีอาชีพค้าขายเป็นแม่ค้าขายแมลงทอดตามตลาดนัดหรืองานวัดที่บ้านก็เลี้ยงแมลงหรือแมงสะดิ้งหรือจิ้งหรีดอยู่แล้วโดยมีรายได้ตกเดือนละ 40,000 บาท ขายจิ้งหรีดในราคาส่งกิโลกรัมละ 100 บาท โดยเลี้ยงจิ้งหรีดมานานหลายปี ขณะนี้ได้เตรียมแปลงปรับพื้นที่นาเอาไว้ปลูกหญ้าเรียบร้อยแล้ว เพราะมีกระแสความนิยมในการเลี้ยงตั๊กแตนในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์มีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดมีความต้องการเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้เพิ่มฐานลูกค้าที่ชื่นชอบรสชาติเมนูทอดที่เป็นตั๊กแตน เเพราะตอนนี้กระแสการเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้ากำลังเป็นที่นิยมในพื้นที่ภาคอีสาน