กาฬสินธุ์เร่งเยียวยาจิตใจชาวบ้านได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นขี้หมู

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับผู้บริหารท้องถิ่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล และ อสม. เร่งเยียวยาสภาพจิตใจชาวบ้านถ้ำปลา ตำบลสหัสขันธ์ และบ้านนาคูน ตำบลนามะเขือ ที่กำลังเผชิญกับกลิ่นเหม็นขี้หมูจากฟาร์มเลี้ยงหมูของเอกชน โดยพบว่าเดินทางมาขอคำปรึกษาวันละ 5 คน อาการหนัก 2 คน และขออพยพออกนอกพื้นที่ 1 คน


จากกรณีชาวบ้าน 2 ใน ต.สหัสขันธ์ และต.นามะเขือ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับความเดือดร้อนสาหัส จากกลิ่นเหม็นของขี้หมู ที่โชยออกมาจากฟาร์มเลี้ยงหมูเอกชน 16 ฟาร์ม โดยมีผลกระทบจากมลภาวะเป็นพิษทางอากาศ ส่งผลให้สุขภาพจิตเสีย ปวดหัวปวดประสาทและเจ็บป่วยด้วยโรคทางลมหายใจ เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรีบแก้ไข ล่าสุดล่ารายชื่อ และร้องทุกข์กล่าวโทษเอกชนและผู้เลี้ยงหมู ให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่นายอำเภอสหัสขันธ์เรียกทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มาร่วมประชุมหาทางออก ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น


ล่าสุดวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ฟาร์มเลี้ยงหมูของเกษตรกรบ้านถ้ำปลา ตัวแทนบริษัทเอกชนและเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู กำลังดำเนินการแก้ไขกลิ่นเหม็นที่เกิดจากขี้หมู โดยการใช้สารอีเอ็มและติดตั้งม่านน้ำ เพื่อดับความรุนแรงของกลิ่นเหม็นของขี้หมู ที่นับวันจะเพิ่มปริมาณมากขึ้น เนื่องจากหมูกำลังเจริญเติบโตใกล้ได้อายุจับจำหน่าย ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใน เนื่องจากเป็นฟาร์มปิด ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไปได้ ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขแล้วเสร็จทันตามกรอบเวลากำหนด 2 สัปดาห์ตามมติในที่ประชุม และเป็นการดำเนินการแบบคู่ขนาน กับการเยียวยาสภาพจิตใจชาวบ้านของฝ่ายสาธารณสุข


นายเดือน ไชยสาท อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/1 บ้านถ้ำปลา หมู่ 3 หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบกล่าวว่า หลังจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมเพื่อหาทางแก้ไขปัญหากลิ่นขี้หมูเหม็น ตนและชาวบ้านผู้เดือดร้อน ก็อยากจะเห็นการแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรมในเร็ววัน และให้เสร็จทันก่อนที่จะมีฝนตกลงมา โดยการใช้ผ้ายางหรือเต็นท์คลุมบ่อบำบัดของเสียและโดยการฝังกลบให้มิดชิด ก็คงจะบรรเทากลิ่นได้ เพราะหากฝนตกลงมาคงจะเพิ่มความเหม็นของขี้หมูเป็นทวีคูณแน่นอน อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขปัญหาระยะยาว ก็ควรจะเร่งดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์ทั้งระบบ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ที่สวยงามของอำเภอสหัสขันธ์ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ธรณีวิทยา และธรรมชาติ เช่น วัดภูค่าว วัดภูสิงห์ วัดสักวันภูกุ้มข้าว ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ รวมถึงชมทิวทัศน์อันสวยงามบนสะพานเทพสุดากลางเขื่อนลำปาว


ด้านนายชุมพล แสบงบาล สาธารณสุข อ.สหัสขันธ์ กล่าวว่านับตั้งแต่ที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน กรณีได้รับความเดือดร้อนจากมลพิษทางอากาศ ที่มีสาเหตุจากฟาร์มเลี้ยงหมู ก็ได้ประสานกับ นายก อบต.สหัสขันธ์ ผู้อำนวยการ รพ.สต.ประจำตำบล เอกชนที่เข้ามาส่งเสริมและเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ให้เร่งดำเนินการแก้ไข กระทั่งนำมาสู่การประชุมหาข้อสรุปร่วมการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ ได้ทำการแจกหน้ากากอนามัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 3 หมู่บ้านคือบ้านถ้ำปลา หมู่ 3 และหมู่ 11 ต.สหัสขันธ์ และบ้านนาคูน หมู่ 4 ต.นามะเขือ สำหรับชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ เช่น กลุ่มเด็ก หญิงมีครรภ์ คนชรา ผู้มีโรคประจำตัว อย่างโรคหอบหืด หรือผู้ที่มีปัญหาทางระบบทางเดินหายใจ และโรคหัวใจ เป็นกลุ่มที่จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ทั้งนี้ได้ร่วมกันทำงานเชิงรุก ลงพื้นที่สอบถามปัญหา ให้คำปรึกษาและให้คำแนะนำด้านการดูแลสุขภาพ ซึ่งเป็นการเยียวยาทางด้านจิตใจในช่วงนี้


ขณะที่นางสมบัติ จำปาสาร ผู้อำนวยการ รพ.สต.บ้านคำลือชา ต.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนของการลงพื้นที่เยียวยาจิตใจและตรวจเช็คสุขภาพเบื้องต้นนั้น ครอบคลุมทั้งชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ และครอบครัวของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ซึ่งทราบว่าได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งจากกลิ่นและเสียงติติงจากชาวบ้าน เป็นสาเหตุทำให้เกิดความไม่สบายใจ ซึ่งตรงนี้ได้ร่วมกับฝ่ายปกครอง สาธารณสุขอำเภอ ท้องถิ่น ท้องที่ ผู้นำชุมชน อสม.ช่วยกันคัดกรอง ประเมินสภาพจิตใจ ถือเป็นช่วงที่ทุกคน ทุกฝ่าย ต้องให้กำลังใจกันและกัน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นของขี้หมู พบว่ามีชาวบ้านเข้ามาแจ้งและขอคำปรึกษาวันละ 4-5 ราย อาการหนัก 2 ราย ซึ่งได้แนะนำให้ไปตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาล บางคนสะดวกที่จะไปรับบริการที่คลินิก ขณะที่มีขอแจ้งความประสงค์ขอย้ายจากหมู่บ้านไปพักอาศัยอยู่กับญาติพื้นที่ห่างไกลจากฟาร์มหมูจำนวน 1 คน

Related posts