ตม.จว.จันทบุรี รวบกัมพูชาหลบหนีหมายจับ พรากผู้เยาว์
วันที่ 15 พ.ค.2566 เวลา 11.30 น. ตม.จว.จันทบุรี ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จว.จันทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศวัส โชติรณพัส , พ.ต.ท.ธรรมม์ยุรา สุรัติสุพพัต รอง ผกก.ตม.จว.จันทบุรี , พ.ต.ท.นิพนธ์ เรืองสม สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ฝ่ายสืบสวน ตม.จว.จันทบุรี สืบสวนหาข่าว เพื่อทำการติดตามจับกุมตัว นายสัมนาง เอียง อายุ 23 ปี สัญชาติกัมพูชา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ 882/2563 ลงวันที่ 24 พ.ย. 63 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปีแต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากผู้ปกครอง,พาบุคคลอายุเกิน 15 ปี ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่ออนาจาร,ข่มขืนกระทำชำเรา,กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี
โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.จันทบุรี ได้รับการแจ้งเบาะแสจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา ว่า นายสัมนาง เอียง ซึ่งหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา ได้เข้ามาอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ ตม.จว.จันทบุรี ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบมาว่า นายสัมนาง เอียง ได้ยื่นคำร้องต่อจัดหางานจัดหางานจังหวัดจันทบุรี เพื่อขอจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว 4 สัญชาติ ตาม มติ ครม. 5 ก.ค.65 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วางแผนกระจายกำลังติดตามเฝ้าดูและพบ นายสัมนาง เอียง ยืนอยู่ที่บริเวณริมถนนหน้าที่ทำการแผนกบริการคนต่างด้าว ตม.จว.จันทบุรี ต.วัดใหม่ อ.เมือง จ.จันทบุรี
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงเข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง จากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงทำการจับกุมตัว นายสัมนาง เอียง ไว้ได้ ในเบื้องต้น นายสัมนาง เอียง ให้การรับสารภาพว่าตนเป็นบุคคลคนเดียวกันกับที่มีชื่อ สกุล ปรากฏตามหมายจับนี้จริง และไม่เคยถูกจับดำเนินคดีมาตามหมายจับของศาลนี้มาก่อนแต่อย่างใด จากนั้นจึงได้ นำตัวส่ง สภ.ศรีราชา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิพัทฒ์ สัจจพันธ์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.ตม.3 ได้สั่งกำชับให้ ตม.จว.จันทบุรี เพิ่มความเข้มงวดกวดขัน ตรวจสอบบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ว่ามีหมายจับของทางการหรือไม่ โดยให้สืบสวนหาข่าวเพื่อทำการจับกุมอย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความมั่นใจในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก