ภัยร้ายสาวชี้เหงา ..สืบนครบาล รวบ “เซเลปเก๊” นัดเดทก่อนขโมยรถยนต์ เหยื่อโผล่ 8 ราย มีลูกชายดาราตลกชื่อดังถูกหลอก
เตือนภัยสาวใจเปลี่ยว ระวังคนร้ายสุดแสบ แฝงตัวในแอ็พพลิเคชั่นหาคู่ ควรหลีกเลี่ยงหากไม่อยากเสียทั้งตัวและทรัพย์สิน ล่าสุด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งมือดีแปลงกายเป็นสาวสวยและรวยมากจนนำมาสู่การจับกุมตัวคนร้ายโดยจะแฝงตัวอยู่ในแอ็พพลิเคชั่น “หาคู่” เช่น Tinder , Omi เป็นต้น แล้วสร้างโปรไฟล์เป็นเซเลป หนุ่มหล่อ รวย ถ่ายภาพคู่รถหรู ซึ่งแท้จริงเป็นรถคนอื่น ดึงดูดเหล่าหญิงสาวให้เกิดความสนใจ มีตัวตนหรือชื่อปลอมกว่าหลายชื่อ เช่น อุ้ม , อั้ม ,พัด , แซ็ค และ แร็ค แผนประทุษกรรมสุดแสบ ใช้บัตรประชาชนคนอื่นเปิดโรงแรมตระเวนเลือกเหยื่อหญิงขี่เหงาที่มี “รถยนต์” ก่อนนัดเดทก่อนจะอาศัยช่วงเหยื่อเผลอขโมยรถยนต์ก่อนหายเข้ากลีบเมฆ ตรวจสอบพบผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 8 ราย และหนึ่งรายเป็นลูกชายดาราตลกชื่อดัง ถูกกลอกลงทุนอีกด้วย
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ณรงฤทธิ์ ทองแพ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว , พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น , ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา , ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ , ร.ต.อ.หญิง ธิดารัตน์ ผดุงประเสริฐ , จ.ส.ต.สรศักดิ์ ด้วงชู , จ.ส.ต.คมสันต์ สุดตานา , ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 , ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) , พ.ต.ต. อัษฎาศ์ เนตรพุดซา สว.สส.สน.โคกคราม ร.ต.อ.วิชัย เมืองมูล รอง สว.สส.สนโคกคราม นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว
นายภีรพัฒน์ บุญมี อายุ 26 ปี หรือ อุ้ม หรือ อั้ม หรือ พอช หรือ พัด หรือ แซ็ค หรือ แร็ค อยู่บ้านเลขที่ 28/2 ม.3 ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ผู้ต้องหา
ตามหมายจับ จำนวน 7 หมายจับ ดังนี้
1.หมายจับศาลแขวงนครราชสีมาที่ จ.190/2563 ลงวันที่ 17 ส.ค. 34 (สภ.มะเริง) ข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์”
2.หมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ที่ จ.352/2564 ลงวันที่ 5 ส.ค. 64 (สภ.ช้างเผือก) ข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์”
3.หมายจับศาลแขวงนครศรีธรรมราชที่ จ.65/2564 ลงวันที่ 2 มิ.ย. 64 (สภ.เมืองนครศรีธรรมราช) ข้อหา “ลักทรัพย์ผู้อื่น”
4.หมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.316/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค. 66 (สน.โคกคราม) ข้อหา “ร่วมกันยักยอกทรัพย์”
5.หมายจับศาลจังหวัดปทุมธานีที่ จ.131/2565 ลงวันที่ 6 ก.ค. 65 (สภ.ปากคลองรังสิต) ข้อหา “ฉ้อโกง”
6.หมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.439/2565 ลงวันที่ 6 พ.ค. 65 (สน.โคกคราม) ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน”
7.หมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.316/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค. 66 (สน.โคกคราม) ข้อหา “ยักยอก
โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
พฤติการณ์กล่าวคือ หญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่ง ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของเพจเฟสบุ๊ค สืบนครบาล IDMB ว่าได้ถูกคนร้ายอ้างเป็นเซเลปรายหนึ่ง ซึ่งพบเจอกันในแอ็พพลิเคชั่นหาคู่ จากนั้นได้มีการนัดเจอกันที่โรงแรมซึ่งเมื่อพักค้างแรมแล้ว ตื่นขึ้นมาก็พบว่าคนร้ายได้หายตัวไปพร้อมกับกุญแจรถและ “รถยนต์” ของหญิงผู้เสียหาย ซึ่งปัจจุบันคนร้ายรายนี้ถูกออกหมายจับแล้วกว่าหลายคดี หลังรับแจ้ง ทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของ สืบนครบาลได้ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม ตรวจสอบลักษณะแผนประทุษกรรมดังกล่าวที่เกิดขึ้นแล้วพบว่าคนร้ายรายนี้ก่อเหตุมาอย่างโชกโชน โดยมีแผนประทุษกรรมสุดแสบ กล่าวคือ คนร้ายจะแฝงตัวอยู่ในแอ็พพลิเคชั่น “หาคู่” เช่น Tinder , Omi เป็นต้น โดยสร้างโปรไฟล์เป็นเซเลป หนุ่มหล่อ รวย ถ่ายภาพคู่รถหรู ซึ่งแท้จริงเป็นรถคนอื่น ดึงดูดเหล่าหญิงสาวให้เกิดความสนใจ ซึ่งเมื่อมีผู้สนใจในตัวโปรไฟล์ของคนร้ายแล้วจะมีการ “คัดเหยื่อ” โดยการเลือกหญิงสาวที่มี “รถยนต์” โดยไม่สนใจ หน้าตา อายุ ก่อนเริ่มพุ่งชนด้วยบทสนทนาเกี้ยวสาวสุดเร่าร้อน ด้วยโปรไฟล์หนุ่มเซเลปทำให้เหล่าเหยื่อหญิงสาวไม่สามารถทานความรู้สึก ต่างเผลอใจเคลิบเคลิ้มไปกับการเกี้ยวพาราสีของคนร้าย ไปจนถึงขั้นบางรายมีการนัดพบ หรือเป็นที่รู้กันในหมู่วัยรุ่นว่า “การนัดยิ้ม” โดยคนร้ายจะแสร้งทำทีนัดหมายให้เหยื่อขับรถยนต์มารับที่สนามบิน โดยอ้างว่าเดินทางมาจาก จ.เชียงใหม่ ( ไม่ได้บินมาจริง) แสร้งเตร็ดเตร่ลากกระเป๋าเดินทางอยู่ในสนามบิน สวมเสื้อผ้าแบรนด์เนมสร้างภาพลักษณ์แรกพบเสมือนเป็นหนุ่มเซเลปนักเดินทาง หลังได้พบเจอกับเหยื่อหญิงสาวก็จะมักนำพาไป “เชือด” ที่โรงแรมละแวก “ถนนเรียบทางด่วนรามอินทรา” ซึ่งคนร้ายเข้าใจถึงหลักการฮอร์โมนของเพศหญิงที่จะหรั่งสารทำให้เกิดความรู้สึกดีดีกับฝ่ายชายหลังมีเพศสัมพันธ์ จึงเลือกที่มีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งหลังเสร็จกิจก็จะออกอุบายต่างๆนาๆเพื่อขอยืมรถยนต์ของเหยื่อ ซึ่งเหล่าเหยื่อหญิงสาวต่างยินยอมให้โดยง่าย ซึ่งเมื่อกุญแจและรถยนต์ของเหยื่อตกไปอยู่ในมือคนร้ายรายนี้แล้ว ก็จะเริ่มตระเวนขับรถเพื่อไปให้เหล่าพ่อค้ารถเถื่อน “ดูสภาพรถ” และจากนั้นก็จะกลับไปอยู่กับเหยื่อที่โรงแรมจนกระทั่งเหยื่อหญิงสาวหลับสนิท คนร้ายก็จะใช้โอกาสดังกล่าว “ขโมย” รถของเหยื่อไปจากโรงแรมและตัดขาดการติดต่อกับเหยื่อไปเลย ซึ่งต่อมาได้มีการสืบสวนจนกระทั่งสามารถยืนยันตัวบุคคลคนร้ายรายนี้ได้ คือ นายภีรพัฒน์ บุญมี ซึ่งมีตัวตนหรือชื่อปลอมกว่าหลายชื่อ เช่น อุ้ม , อั้ม , พอช , พัด , แซ็ค และ แร็ค ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับกว่า 7 หมายจับ
หลังทราบถึงภัยร้ายของผู้ต้องหารายนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล ร่วมกับ ฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม ลงพื้นที่สืบสวนติดตามโดยสืบทราบว่าปัจจุบัน นายภีรพัฒน์ฯ ได้ไปกบดานอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ลพบุรี โดยคนร้ายหลบซ่อนไม่กลับบ้านตามภูมิลำเนาและยังอำพลางตัวใช้บัตรประชาชนผู้อื่นในการทำธุรกรรมต่างๆ กระทั่งได้ใช้เจ้าหน้าที่อำพลาง แปลงกายเป็นสาวสวยและรวยมาก เข้าไปท่องในโลก Tinder และ Omi กระทั่งได้พบเบาะแสของ นายภีรพัฒน์ฯ จนนำมาสู่การจับกุมตัวตามหมายจับทั้ง 7 หมายจับ วันนี้ 27 เม.ย. 66 เวลา 10.30 น. โดยจับกุมตัวได้ที่หน้าร้าน Mr.DIY ต.ท่าศาลา อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี โดยขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. เข้าไปจับกุมตัว นายภีรพัฒน์ฯ มีการออกอุบายทำทีว่าตนเองนั้นชื่อ “อนุรักษ์” มิใช่ “ภีรพัฒน์” เพื่อหวังจะตบตาเจ้าหน้าที่ แต่ไม่เป็นผลเนื่องจากเจ้าหน้าที่สามารถจำเอกลักษณ์พิเศษของ นายภีรพัฒน์ฯ ได้ ซึ่งท้ายสุดก็ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ
ในชั้นจับกุม นายภีรพัฒน์ บุญมี ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ที่ตนเองมีหลายชื่อนั้นเพราะชอบแสวงหาความสุขจากการมีความสัมพันธ์กับผู้หญิง ไม่อยากให้มีใครจำตัวตนของตัวเองได้ และตนเองเริ่มก่อเหตุลักษณะนี้มาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ.2561 โดยตอนนั้นได้มีลูกพี่ซึ่งเป็นเครือข่ายส่งรถยนต์ข้ามประเทศ มาสอนตนเองว่าให้นัดมีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อและขโมยรถมา ซึ่งการทำเช่นนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนข้อหาหนัก เพราะจะโดนแค่ข้อหา ยักยอกทรัพย์ ซึ่งโทษเบา และยังสอนว่าไม่ต้องสนใจ รูปร่างหน้าตาอายุ ให้ดูเพียงแต่รุ่นรถของเหล่าหญิงสาวที่จะไปนัดมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น ให้ถือว่าเป็นการทำงานไม่ใช่การหาความสุขสำราญ โดยยอมรับว่าก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง และคนร้ายที่ก่อเหตุลักษณะนี้มีอีกจำนวนหลายรายเรียกได้ว่าเป็นเครือข่ายไม่ได้มีตนเพียงคนเดียว โดยยอมรับว่าถ้าเป็นรถใหญ่เมื่อตนขโมยมาได้แล้วขายต่อนั้นก็จะถูกส่งไปยังประเทศกัมพูชา ส่วนรถเล็กนั้นส่วนใหญ่ผู้รับซื้อไปจะเอาไปเก็บในโกดังเพื่อรอนำไปสวมซากรถที่เป็นรุ่นเดียวกัน โดยสุดท้ายยอมรับว่าที่เคยนัดมีเพศสัมพันธ์กับเหล่าผู้เสียหายที่ผ่านมานั้นตนเองมิเคยมีการสวมถุงยางป้องกันแต่อย่างใด ปัจจุบันอ้างว่ามีอาการป่วย ซึ่งอยู่ระหว่างรอการตรวจโรคร้ายกับทางโรงพยาบาล” หลังเสร็จสิ้นการจับกุมได้นำตัว นายภีรพัฒน์ฯ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของคนร้ายว่าเคยก่อเหตุมาเพียงเท่านี้ เชื่อว่ายังมีเหยื่ออีกจำนวนมาก วิเคราะห์ได้จากแผนประทุษกรรมของคนร้ายรายนี้การหลอกลวงเหล่าหญิงสาวหรือการเลือกสถานที่เชือดให้อยู่ในทำเลที่ตั้งของเหล่าพ่อค้ารับซื้อรถเถื่อน เชื่อว่าต้องผ่านประสบการณ์ในการก่อเหตุมามาก ถือเป็นภัยสังคมต่อเหล่าหญิงสาวเป็นอย่างยิ่ง จากนี้จะมีการขยายผลจนถึงที่สุด ไปถึงเครือข่ายรับซื้อรถเถื่อนด้วย และขอเตือนไปยังเหล่าหญิงสาวที่ชื่นชอบเล่นแอ็พพลิเคชั่นหาคู่ลักษณะนี้ ให้หลีกเลี่ยง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของท่าน ผมไม่ต้องการให้คนประเภทนี้เพ่นพ่านอยู่ในสังคม และถูกดำเนินคดีให้มากที่สุดจึงขอประชาสัมพันธ์เหล่าหญิงสาวที่เคยประสบเหตุในลักษณะนี้ให้รีบแจ้งเบาะแสมาที่ บก.สส.บช.น. ทางโทรศัพท์หรือช่องทางเฟสบุ๊คเพจ สืบสวนนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ”