ผู้ว่าฯ สระบุรี ลงพื้นที่สร้างแนวกันไฟป่า เขตพื้นที่ติดต่อจังหวัดนครนายกหลังเกิดไฟไหม้ป่า(มีคลิป)
วันทึ่ 31 มีนาคม 2566 ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ชญ.15 (ชะอม)ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีลงพื้นที่เพื่อติดตามการสร้างแนวกันไฟป่าในพื้นที่ หลังไหม้ป่าในจังหวัดนครนายก และมีความเสี่ยงที่จะข้ามเขาไปในพื้นที่ อ.ชะอม จ.สระบุรี ซึ่งสถานการณ์ไฟไหม้ป่านครนายก ยังมีเปลวไฟและกลุ่มควันปะทุอยู่ เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องเร่งระดมกำลังทางภาคพื้นที่ เดินทางเข้าไปทำแนวกันไฟ
นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อทำแนวป้องกันไฟป่า เพื่อเตรียมการป้องกันการลุกลามของไฟป่าในพื้นที่นครนายกมายังในพื้นที่ตำบลชะอม โดยแม้ว่าทางจังหวัดนครนายกจะสามารถควบคุม ไฟไหม้ป่าไว้ในวงจำกัดแล้ว พร้อมประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมกันเฝ้าระวังและห้ามจุดไฟเผาในพื้นที่
ทั้งนี้นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้ฝากเตือนมายังพี่น้องประชาชนว่า ด้วยปรากฏว่าฤดูแล้งของทุกปี มักจะเกิดไฟป่าขึ้นเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 รวมถึงในพื้นที่ชุมชน พื้นที่ทางการเกษตร และในเขตทางทำความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นจำนวนมหาศาลทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณ ในการระดมกำลัง เจ้าหน้าที่ เครื่องมือ เครื่องใช้ และยานพาหนะ เพื่อที่จะเข้าดำเนินการระงับไฟป่าเป็นจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุประการหนึ่ง เกิดจากการเผาไร่ ฟางข้าว ซังข้าวโพด หญ้าและวัชพืชในที่ดิน ที่ทำกินของเกษตรกร เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก โดยไม่มีการควบคุมในที่สุดไฟก็ไหม้ลุกลามเข้าไปติดป่ากลายเป็นไฟป่า
สำหรับเขตควบคุมไฟป่าขึ้นไว้ ดังนี้ กำหนดให้เขตอุทยานแห่งชาติ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า สวนพฤกษศาสตร์ ศูนย์ฝึกอบรมป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ชุมชน พื้นที่ทางการเกษตร พื้นที่ริมทางหลวง และพื้นที่ริมทางหลวงท้องถิ่นเป็นเขตควบคุมไฟป่า กำหนดมาตรการเพื่อควบคุมไฟป่า
สำหรับเขตควบคุมไฟป่า ดังนี้ ในเขตพื้นที่ชุมชนห้ามมิให้กำจัดวัชพืช ขยะ หรือสิ่งอื่นใด โดยการเผาอย่างเด็ดขาด เมื่อมีความจำเป็นต้องเผาไร่ วัชพืชในที่ดินทำกิน ในพื้นที่ชุมชน และในพื้นที่ทางการเกษตร ขอความร่วมมือให้ราษฎรผู้ครอบครองที่ดินดังกล่าว จัดทำแนวกันไฟและควบคุมไฟไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ โดยให้ประสานกับหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ท้องที่ สถานีควบคุมไฟป่าเจ็ดสาวน้อย – สามหลั่น หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่อยู่ที่ใกล้เคียง เพื่อจัดเจ้าหน้าที่คอยควบคุมในการดำเนินการดังกล่าวด้วย หากราษฎรผู้ใดไม่แจ้งขออนุญาตต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือขออนุญาตแล้วแต่ไม่จัดทำแนวกันไฟและมิได้ควบคุมไฟให้อยู่ในพื้นที่ ที่ตนถือครอง จนเป็นเหตุให้ไฟลุกลามไหม้ป่า ให้กำนัน หรือผู้ใหญ่บ้าน แจ้งต่อนายอำเภอท้องที่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแก่ราษฎรที่ฝ่าฝืน หรือปล่อยปละละเลยโดยเฉียบขาดทุกราย
โดยเฉพาะราษฎรที่บุกรุกเข้าไปแผ้วถางป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าสงวนแห่งชาติ จังหวัดจะพิจารณาใช้นโยบายอพยพราษฎรผู้บุกรุกพื้นที่ดังกล่าวออกจากป่าตามที่เห็นสมควรและจะดำเนินคดีตามความผิดที่เกิดขึ้น ในเขตควบคุมไฟป่า ราษฎรต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดับไฟป่า ในกรณีที่ทางราชการร้องขอ และหากพบเห็นผู้กระทำความผิดจุดไฟเผาป่า หรือเมื่อพบเห็นไฟไหม้ป่าบริเวณใดให้ช่วยกันดับไฟป่าโดยเร็ว เพื่อมิให้ไฟขยายเป็นวงกว้าง หากไฟป่ารุนแรงไม่สามารถดับได้ ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปดำเนินการดับไฟและจับกุมผู้กระทำผิดได้ทันการณ์ กรณีจุดไฟเผาป่า หรือปล่อยให้ไฟลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ มีความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้แล้ว ยังอาจมีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอีก ข้าราชการในพื้นที่ทุกคน ทุกสังกัด นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน คณะกรรมการหมู่บ้าน คณะกรรมการชุมชน และสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ถือเป็นหน้าที่ที่ต้องสอดส่องดูแลเอาใจใส่ และร่วมชี้แจงให้ประชาชนในท้องที่ปฏิบัติตามประกาศ อย่างเข้มงวด
**********
กฤษฎา สมมาตร
รายงานข่าว