วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น เปิดโครงการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจผู้ประกอบการ ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต เพื่อป้องกันปัญหาแหล่งมั่วสุมและยาเสพติด เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบกิจการ
วันที่ 21 มี.ค.66 ที่ ห้องประชุมพระธาตุขามแก่น ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ การประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบกิจการ จัดโดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแก่น มีนางกมนรัตน์ สิมมาคำ วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยผู้ประกอบกิจการร้านเกม ร้านคาราโอเกะ พนักงานเจ้าหน้าที่จาก 26 อำเภอ เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดและผู้ประกอบกิจการตาม พรบ.ภาพยนตร์ฯ จำนวน 150 คน เข้าร่วมประชุม โดยวิทยากร คือ อัยการจังหวัดขอนแก่น พันตำรวจโทเมธี ศรีวันนา รองผู้บังคับการป้องกันและปราบปราม ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น บรรยายให้ความรู้
นางกมนรัตน์ สิมมาคำ วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น ในฐานะผู้แทนกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ในพื้นที่ มีหน้าที่และอำนาจในการเป็นหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบงานตาม พรบ.ภาพยนตร์ฯ เกี่ยวกับการออกใบอนุญาตประกอบกิจการผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ ร้านเกม ร้านคาราโอเกะ ร้านให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายวีดิทัศน์ ที่ยังพบปัญหาอันเกิดจากสถานประกอบกิจการฯ เช่น ร้านคาราโอเกะ ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ ซึ่งหลังจากที่สถานประกอบกิจการฯ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในห้วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ขาดการตรวจติดตามและสร้างความรู้ความเข้าใจในการให้บริการตามเงื่อนไข พ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ อย่างเคร่งครัด และอาจมีความเสี่ยงที่ร้านคาราโอเกะ ร้านเกม-ร้านอินเทอร์เน็ต ฯลฯ จะกลายเป็นแหล่งมั่วสุมของเด็ก เยาวชนและประชาชนได้
ด้านนายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าว ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้ความสำคัญในการจัดระเบียบสังคม มาตรการการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด และความห่วงใยต่อเยาวชนและประชาชนในพื้นที่ จากการดำเนินงานที่ผ่านมาแม้ทุกภาคส่วนจะมีมาตรการดูแลควบคุมพร้อมทั้งจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสถานประกอบกิจการเป็นระยะ แต่ก็ยังพบร้านคาราโอเกะ ร้านเกม-ร้านอินเทอร์เน็ต ที่กระทำผิดระเบียบหรือเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาตอยู่เสมอ ทั้งยังมีผู้ประกอบกิจการรายใหม่เกิดขึ้นต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องมีมาตรการเฝ้าระวัง ด้วยการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในแนวทางปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สถานประกอบการทุกแห่งให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการปฏิบัติตนให้ถูกต้อง ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนและสังคม โดยเฉพาะกับกลุ่มเด็กและเยาวชนในพื้นที่ และเกิดความร่วมมือ เป็นเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมของจังหวัดขอนแก่น ตลอดจนรณรงค์แก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนอีกทางหนึ่ง.