เกิดอุบัติเหตุรถกระบะบรรทุกคนเต็มคันเดินทำสายบุญชนท้ายรถจักรยานยนต์ก่อนเสียหลักไปชนกับรถฟอร์จูนเนอร์ที่วิ่งสวนทางมา และลงข้างทาง บนถนนสายอำเภอกุฉินารายณ์ – มุกดาหาร บริเวณทางเข้าวัดภูด่านไห อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก
เมื่อเวลา 08.50 น.วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 ศูนย์อุบัติเหตุและสั่งการ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ ก่อนเสียหลักไปชนกับรถฟอร์จูนเนอร์ บนถนนทางหลวงสายอำเภอกุฉินารายณ์ – มุกดาหาร บริเวณทางเข้าวัดภูด่านไห อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก หลังรับแจ้งจึงเร่งประสานไปยังร้อยเวร.สภ.กุฉินารายณ์ เจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ หน่วยกู้ภัยอโสกสมเด็จ หน่วยกู้ภัยร่วมใจสมเด็จ หน่วยกู้ภัยกุดหว้า มูลนิธิเจ้าปู่บัวขาว หน่วยกู้ภัยเมตตาธรรม (จุดบัวขาว) และหน่วยกู้ชีพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ออกตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ
โดยที่เกิดเหตุพบรถกระบะแคป ยี่ห้อนิสสันสีสอร์น ทะเบียน บค 8269 มุกดาหาร สภาพด้านหน้าพังยับเยินเสียหลังพุ่งลงข้างทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย นอนกระจัดกระจายตามพื้นร้องขอความช่วยเหลือ ใกล้กันพบรถยนต์เอนกประสงค์ ยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน กบ 5059 ร้อยเอ็ด สภาพด้านหน้าพังยับ ชนกับต้นไม้ข้างทาง มีผู้โดยสารบาดเจ็บ 4 ราย นอกจากนี้บริเวณริมถนนยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน กทษ 967 มุกดาหารล้มอยู่ด้วย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาล
ทั้งนี้จากการสอบถามของเจ้าหน้าที่และจากการตรวจสอบของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ เบื้องต้นทราบว่า สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ รถกระบะแคป ซึ่งเป็นคณะสายบุญแม่ขาว มีผู้โดยสารทั้งนั่งในแคป และกระบะหลังรวม 11 คน ขับมาจาก อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร จะมุ่งหน้าไปทำบุญที่สำนักสงฆ์คำเตย ต.บ่อแก้ว อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์
พอถึงจุดเกิดเหตุรถได้ไปชนท้ายรถจักรยานยนต์ที่ซ้อนกันมา 4 คน แล้วได้เสียหลักไปชนกับรถฟอร์จูนเนอร์ ที่วิ่งมาจาก อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีผู้โดยสารนั่งมาในรถ 4 คน ก่อนจะเสียหลักพุ่งลงข้างทาง ส่งให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ซึ่งทั้ง 4 รายเป็นผู้โดยสารที่นั่งรถกระบะ เสียชีวิตในแคป 2 ราย และนั่งกระบะหลัง 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทั้งจากรถกระบะ รถจักรยานยนต์ และรถยนต์เอนกประสงค์รวม 15 ราย
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง ทั้งลักษณะการเกิดเหตุ รวมถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนรายชื่อผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ