นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามการแก้ปัญหาน้ำกัดเซาะชายฝั่งทะเลอย่างเป็นระบบ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี/ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย / นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ เดินทางลงพื้นที่ ม.5 บ้านคลองกลาง ตำบลเกาะเปริด (เปิด) อำเภอแหลมสิงห์ จ.จันทบุรี เพื่อตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาสำคัญในพื้นที่ ทั้งการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลและบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่งอย่างเป็นระบบทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
โดยลงพื้นที่บ้านคลองกลาง ที่เกิดปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะที่ดินยาวนาน มากกว่า 30 ปี ในพื้นที่ ระหว่าง เกาะนางรำ กับเกาะเปริด โดยในช่วง2 ปีหลัง เนื้อที่ดินหายไปหลาย 10 ไร่ บริเวณพื้นที่ชายฝั่ง ของม.4 -ม.5 ยาวจนถึงหมู่บ้านเกาะแมว ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ ทำให้ที่ทำกินชาวบ้านหาย บ้านเรือนเสียหาย ชาวบ้านส่วนใหญ่ ทำอาชีพประมงชายฝั่ง ต้องแย่งชิงทรัพยากรกับประมงชายฝั่งด้วยกันและประมงพาณิชย์ หลังดูพื้นที่ น้ำทะเลกัดเซาะ นายกฯได้กล่าวกับชาวบ้านที่มารอต้อนรับว่า
ทางภาครัฐรับทราบถึงปัญหาน้ำกัดเซาะ ที่เป็นปัญหาความเดือดร้อน โดยได้ ดำเนินโครงการเขื่อนหินเพื่อป้องกันน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่อำเภอแหลมสิงห์โดยโครงการดังกล่าวมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นโครงการในระยะยาวจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาและศึกษาปัจจัยผลกระทบอย่างรอบด้านโดยเฉพาะปัญหาสิ่งแวดล้อมที่อาจจะเกิดขึ้น หลังเกิดโครงการขนาดใหญ่
จากนั้นเดินทางไปยังวัดเขาตาหน่วย เข้าสักการะในพระอุโบสถจากนั้นพบปะประชาชนที่มารอต้อนรับโดยมีนายมนต์สิทธิ์ไพศาลธนวัฒน์ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีกล่าวรายงาน ถึงสภาพเศรษฐกิจของจังหวัดจันทบุรีที่มุ่งผึ้งด้านการเกษตรตั้งเป้าเป็นนครเป็นมหานครแห่งผลไม้และเมืองแห่งอัญมณีนอกจากนี้ยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เที่ยวได้ทั้งที่เที่ยวได้ทุกวันและสำหรับปัญหาในพื้นที่อำเภอแหลมสิงห์ ที่พบปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรง
โดยนายจตุพรปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้กล่าวถึงปัญหาที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นโดยทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะเร่งดำเนินการในพื้นที่วิกฤตคือหมู่ห้าตำบลเกาะเปิดอำเภอแหลมสิงห์ภายในระยะเวลาสามเดือนเพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ในการสูญเสียที่ดินทำกินและบ้านเรือนได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคอำเภอขลุงยังกล่าวถึงแนวทางแก้ปัญหาน้ำประปาไม่เพียงพอในพื้นที่สองอำเภอสามตำบลคืออำเภอขลุงและอำเภอแหลมสิงห์ที่ทางการประปาส่วนภูมิภาคอำเภอขลุงจะได้ขยายแนวท่อระยะทาง 10 กิโลเมตรจากอำเภอขลุงมายังอำเภอแหลมสิงห์ภายใต้งบประมาณ 30,000,000 บาทเพื่อช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดทุกฤดูกาล
หลังจากนั้นพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีที่ได้มาพบปะกับพี่น้องประชาชนอีกครั้งโดยยืนยันว่าปัญหาที่ประชาชนนำเสนอขึ้นมาทั้งสองประเด็นนี้จะได้รับการแก้ไขโดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงหลักการคือชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์รวมทั้งพี่น้องประชาชนโดยกล่าวถึงแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงให้ประชาชนนำไปปรับใช้ ในเรื่องของการมีอาชีพเสริมอาชีพที่สองเพื่อเป็นการเพิ่มรายจ่ายโดยที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหา โควิด-19 ซึ่งทำให้โครงการในการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์หลายด้านมีความล่าช้าแต่หลังจากนี้ทางภาครัฐจะเร่งดำเนินการในการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานรวมทั้งรัฐบาลดิจิตอล
เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความสะดวกสบายในการติดต่อกับภาครัฐมากยิ่งขึ้นและ และกล่าวถึงจังหวัดจันทบุรีที่มีศักยภาพหลายด้านทั้งการท่องเที่ยวอัญมณีและผลไม้ซึ่งขอให้เจ้าหน้าที่ข้าราชการที่เกี่ยวข้องได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของผลิตภัณฑ์ชุมชนในการเพิ่มเพิ่มมูลค่าสินค้าในการค้าขายกับต่างประเทศเพื่อเป็นการเชื่อมโยงเศรษฐกิจของไทยและประเทศเพื่อนบ้านต่อไป
พร้อมกันนี้ในช่วงบ่าย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลพระปกเกล้า เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานและติดตามการก่อสร้างอาคารจอดรถ 10 ชั้น
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางต่อมายังวัดโค้งสนามเป้า อำเภอเมืองจังหวัดจันทบุรี ก่อนที่จะไปพบปะกับพี่น้องประชาชนที่มารอต้อนรับ/นายกรัฐมนตรีได้ขึ้นไปสักการะพระประธาน บนอุโบสถวัดโค้งสนามเป้า จากนั้น นายนายขวัญเมือง สุจินต์ ตัวแทนชาวบ้านทุ่งฟ้าผ่า ได้ เสนอปัญหาความเดือดร้อน โดยเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์ ที่เป็นที่ดิน ที่อยู่ที่อาศัย เป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันถูก ฟ้องร้องขับไล่ให้ออกจากที่ดินของตน
เป็นกรณีพิพาทมาอย่างยาวนานจึงอยากให้ทางภาครัฐเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังเพื่อให้การอยู่อาศัยเป็นไปอย่างสงบไม่ต้องหวาดระแวงอย่างทุกวันนี้
ขณะที่พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยพลเอกอนุพงษ์เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รับปาก ว่าจะเร่งตรวจสอบข้อเทจจริง ตอนนี้พิพาทดังกล่าว และดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป
จากนั้นเดินลงถ่ายรูปกับพี่น้องประชาชนที่มารอต้อนรับตั้งแต่ช่วงเช้าอย่างเป็นกันเอง โดย นายกฯเดินถือไมค์ พูดคุยกับพี่น้องประชาชน และได้ขอให้ทบทวนถึงเรื่องที่ภาครัฐพยายามทำมาอย่างต่อเนื่องทั้งด้านสาธารณูปโภค ด้านเศรษฐกิจ สังคม โดยแนะนำชาวบ้านในพื้นที่ให้เน้นการทำเกษตรแบบ BCG คือการเกษตรที่ปลอดภัยเพื่อให้ผลผลิตทางด้านเกษตรของจังหวัดจันทบุรีเป็นที่ยอมรับ โดยบรรยากาศในการลงพื้นที่เป็นไปด้วยความ อบอุ่นพี่น้องประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจและขอถ่ายรูปพร้อมทั้งมอบดอกกุหลาบให้นายกฯ และขอให้นายกฯอยู่ต่อ
ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก