สงขลา-ตม.สงขลา ร่วมกับชุดสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 สกัดจับรถกระบะลักลอบขนคนต่างด้าวชาวเมียนมา ซึ่งเป็นแรงงานเถื่อน2คันทั้งรถนำทางและรถบรรทุกคนต่างด้าวที่อัดแน่นกันมาในกระบะท้าย30คน และซ้อนแผนจับนายหน้าชาวเมียนมาอีก1คนขณะมารับช่วงต่อยังปลายทางที่อ.บางกล่ำ จ.สงขลา
วันนี้(3ก.พ.66) ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจ.สงขลาร่วมกับชุดสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง6 ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี , พ.ต.อ.เฉลิมชนม์ แหลมทอง รอง ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.พงศ์ธร พงศ์รัชตนันทน์ ผกก.ตม.จว.สงขลา , พ.ต.อ.เด่นชาย เจริญยุทธ ผกก.สส.บก.ตม.6
สกัดจับรถยนต์กระบะขนคนต่างด้าวชาวเมียนมา 2 คันซึ่งเป็นแรงงานเถื่อนหลบหนีเข้าเมือง ทั้งรถนำทางและรถที่ใช้บรรทุกคนต่างด้าว
โดยจับกุมได้บนถนนสายเอเชีย พื้นที่อ.บางกล่ำ จ.สงขลา คันแรกเป็นรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน บล-1055 ชุมพร มีนายธวัชชัย อายุ22 ปี เป็นผู้ขับขี่ซึ่งเป็นรถตรวจสอบเส้นทางว่ามีการตั้งด่านตรวจของเจ้าหน้าที่จุดใดบ้าง
คันที่สองเป็นรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน บว-3770 สุรินทร์ ซึ่งเป็นรถรั้วหรือรถคอก ซึ่งขับตามหลังมา มีนางสาวสมจิตต์ อายุ 29 ปี เป็นคนขับ และท้ายรถกระบะพบคนต่างด้าวชาวเมียนมานั่งอัดแน่นกันมาถึง30 คน โดยใช้ผ้าใบคลุมอย่างมิดชิดเพื่ออำพรางว่าขนส่งสินค้า
และขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจับกุมและตรวจสอบรถกระบะทั้งสองคัน มีนายหน้าคนหนึ่งโทรเข้ามาหา นางสาวสมจิตต์ เพื่อนัดรับส่งแรงงานต่างด้าว ที่บริเวณปากทางเข้านิคมอุตสาหกรรมฉลุง ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา
เจ้าหน้าที่จึงซ้อนแผนตามสะกดรอยจนมาถึงจุดนัดพบ ก็มีนายออง จ่อ ตาน ชาวเมียนมา ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาติดต่อนางสาวสมจิตต์ เจ้าหน้าที่จึงจับกุมได้อีก 1 คนพร้อมรถจักรยานยนต์
จาการสอบสวนในเบื้องต้นทั้งหมดให้การว่าขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมามาจากจ.ประจวบคีรีขัน มาส่งในพื้นที่อ.บางกล่ำ เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย
โดย นายธวัชชัย คนขับรถตรวจสอบเส้นทางบอกว่าได้ค่าจ้าง 9,000 บาท ส่วน นางสาวสมจิตต์ คนขับรถขนแรงงานต่างด้าว บอกว่าได้ค่าจ้าง 3,000 บาท
ในขณะที่ นายออง จ่อ ตาน รับว่ามารอรับเพื่อพาไปหลบซ่อนตัว เพื่อรอนายหน้าอีกชุดหนึ่งมารับไปส่งบริเวณช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย ได้ค่าจ้าง2,000 บาท
ส่วนคนต่างด้าวทั้ง 30 คนนั้น บอกว่าต้องเข้าไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย จ่ายค่าเดินทางประมาณ 3 ล้านจ๊าด หรือ 47,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวทั้งสามคนดำเนินคดีความผิดฐาน ร่วมกันให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ให้การช่วยเหลือด้วยประการใดๆแก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่
ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้ง30คน ดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
และจะทำการสอบสวนขยายผลเพื่อสาวไปถึงขบวนการค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติทั้งต้นทางในพื้นที่จ.ประจวบคีรีขันธ์และปลายทางในพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซียต่อไป
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา