ฉะเชิงเทรา – หนุ่มช่างทาสีใส่เสื้อสถาบันที่เคยเรียนมาทำงานระหว่างกลับบ้านโดนเด็กช่างต่างสถาบันแทงทะลุปอด
จากกรณีเมื่อช่วงเย็น วันที่ 15 ธ.ค.2565 ได้รับแจ้งมีผู้ถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธบริเวณ ริมถนน ฉะเชิงเทรา – บางปะกง ขาเข้าเมือง โดยนางน้ำผึ้ง แม่ผู้ถูกทำร้ายได้เล่าว่า ตนกับสามี พร้อมลูกชาย หลาน และลูกเขย ได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากทำงานในพื้นที่ จ.ชลบุรี โดยขี่รถจักรยานยนต์มาทั้งหมด 4 คัน รวม 7 คน แต่ละคันจะขี่ห่างกันไม่ไกลมากนัก โดยตนเป็นคนขี่นำหน้า ส่วนลูกชายที่โดนแทงขี่มาคันที่ 2 สามีขี่เป็นคันที่ 3 และหลานขี่เป็นคันสุดท้าย ซึ่งพวกตนเป็นช่างก่อสร้างในไซร์งานพื้นที่ จ.ชลบุรี เมื่อมาถึงหน้าวิทยาลัยช่างแห่งหนึ่งใน อ.บ้านโพธิ์ มีนักเรียนช่างขี่รถตีคู่มา ก่อนจะใช้มีดพกสั้นแทงลูกชายตน ตนมาทราบเมื่อขี่รถไปไกลแล้ว ก่อนรู้ว่าลูกโดนแทงจึงวนกลับมาดู
ด้านนายบีม (คนนั่งซ้อนท้ายผู้บาดเจ็บ) กล่าวว่า ตนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าสปาร์ค สีแดง หมายเลขทะเบียน 4233 ฉะเชิงเทรา โดยมีนายณัฐกลเป็นคนขี่ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุมีชายวัยรุ่นใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีดำ ขี่มาขนาบข้าง และถามว่าพวกตนเรียนที่ไหน ก่อนให้ของลับ ตนจึงให้ของลับกลับไป เป็นจังหวะที่นักเรียนช่างกำลังคว้ามีดที่พกมาจะแทงตน ตนจึงเอาลำโพงบูลทูธตีเข้าไปที่มือของนักเรียนช่างคนดังกล่าว เพื่อให้มีดหลุดออกจากมือ แต่มีดก็ไม่หลุด
นายบีม กล่าวต่อว่า นักเรียนช่างคนดังกล่าวยังขี่รถตามมา ก่อนจะใช้มีดแทงเข้าไปที่บริเวณหลังของนายณัฐกลที่เป็นคนขี่ ก่อนมือแทงจะรีบขี่รถหนีไป ขณะนั้นเลือดของนายณัฐกลออกจำนวนมาก จึงรีบจอดรถ เป็นจังหวะที่พ่อของนายณัฐกลขี่ตามมาถึงพอดี จึงรีบโทรขอความช่วยเหลือ ก่อนเร่งนำตัวนายณัฐกลไปโรงพยาบาลบ้านโพธิ์ และถูกส่งต่อมาที่โรงพยาบาลพุทธโสธร ตนและนายณัฐกลไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน หลังเลิกเรียนมาได้ 2 ปี ก็มาทำงานหาเงินอย่างเดียว ไม่เคยมีเรื่องกับใคร
(คืบหน้า) วันนี้ 20 ธันวาคม 2565 พ.ต.อ.จิรวัฒน์ยอดกระโหม ผกก.สภ.แสนภูดาษได้เดินทางมายังโรงพยาบาลพุทธโสธรเพื่อเยี่ยมอาการป่วยของนายณัฐกล ยองใย อายุ 20 ปี ช่างทาสีก่อสร้างที่ถูกนักเรียนช่างวิทยาลัยแห่งหนึ่ง อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ใช้มีดพกสั้นแทงได้รับบาดเจ็บ และได้มีการนำเสนอข่าวไปว่านางน้ำผึ้งแม่ของนายณัฐกล ยองใย ได้ไปร้องเรียนสื่อมวลชนว่าคดีไม่มีความคืบหน้านั้น
ทางด้าน พ.ต.อ.จีรวัฒน์ ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่าได้ทำความเข้าใจกับญาติของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บแล้วว่า ขณะนี้ได้ให้ตำรวจชุดสืบสวนพยายามเร่งติดตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิดในจุดต่างๆ เนื่องจากขณะที่คนร้ายก่อเหตุไม่มีพยานหลักฐานใดๆ บ่งชี้ได้เลย ทราบแต่ว่าคนร้ายก่อเหตุแล้วได้ขี่รถมอเตอร์ไซต์มุ่งตรงเข้ามายังตัวเมืองฉะเชิงเทราแต่ไม่ทราบว่าระหว่างทางจะเปลี่ยนเส้นทางในการหลบหนีหรือไม่
เนื่องจากระยะเส้นทางที่เข้ามายังตัวเมืองมีทางแยกหลายเส้นทางที่จะหลบหนีได้และบางจุดก็ไม่มีกล้องวงจรปิดให้แกะรอยเพราะฉะนั้นจึงต้องขอเวลาญาติของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในการดำเนินการสืบจับผู้ก่อเหตุเพื่อมาดำเนินคดีและขอให้ญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บวางใจเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีทางกฎหมายให้ได้ต่อไป.
