บก.สส.สตม. ร่วมกับชุด PCT ชุดที่ 1 ปฏิบัติการทลาย 4 จุด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ สัญชาติเกาหลี เงินหมุนเวียนกว่า 50 ล้านบาท
บก.สส.สตม. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 1 เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นบ้านและคอนโดหรู โดยใช้หมายค้นของศาลจังหวัดเชียงใหม่เข้าค้นในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอหางดง และ อำเภอสันกำแพง รวมจำนวน 4 จุด โดยเป็นบ้านหรูจำนวน 2 หลัง และคอนโด จำนวน 2 ห้อง ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าเป็นสถานที่ตั้งของกลุ่มคนเกาหลี ที่ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผลการตรวจค้นได้ทำการจับกุมชาวเกาหลีใต้ จำนวน 5 ราย ดังนี้
1.MR.LEE JONG หรือ นาย ลี จอง อายุ 21 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ (ขอสงวนนามจริง)
2. MR.LEE หรือ นาย ลี อายุ 44 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ (ขอสงวนนามจริง)
3. MR.JONG หรือ นาย จอง อายุ 27 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ (ขอสงวนนามจริง)
4. MR.NOH หรือ นาย โน อายุ 31 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ (ขอสงวนนามจริง)
5. MR.SUNG หรือ นาย ซัง อายุ 30 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ (ขอสงวนนามจริง)
พร้อมด้วยของกลาง คอมพิวเตอร์จำนวน 1 เครื่อง,โทรศัพท์มือถือ จำนวน 11 เครื่อง,แทปเล็ต จำนวน 4 เครื่อง และ.โทรศัพท์บ้าน จำนวน 7 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay)”
พฤติการณ์จับกุม เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 1 และ บก.สส.สตม. ได้รับการประสานงานจากแผนกกงสุลฝ่ายตำรวจ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย ขอความร่วมมือจับกุมบุคคลสัญชาติเกาหลีใต้ผู้มีหมายจับ มีพฤติการณ์จัดตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพื่อหลอกบุคคลสัญชาติเกาหลี ซึ่งเคยเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่ประเทศจีน ต่อมาได้หลบหนีเข้ามายังประเทศไทย แล้วมาตั้งฐานในการกระทำความผิดเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านทั้งสองหลัง พบ MR.LEE JONG หรือ นาย ลี จอง ,MR.JONG หรือ นาย จอง และ MR.NOH หรือ นาย โน พร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ต่อมาได้สืบทราบว่ามีการกระจายจุดที่ตั้งของพนักงานคอลเซ็นเตอร์ออกไปยังคอนโด 2 ห้อง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบ MR.LEE หรือ นาย ลี และ MR.SUNG หรือ นาย ซัง โดยผู้ถูกจับทั้ง 5 ราย ให้การรับสารภาพว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่พากันหลบหนีจากประเทศจีน เพื่อมาตั้งฐานในประเทศไทย
โดยมีการแบ่งหน้าที่กันคือ .MR.LEE JONGหรือ นาย ลี จอง ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าแก๊ง คอยควบคุมสั่งการ ดูแลจัดหาที่ตั้งและอุปกรณ์ที่ใช้ อีกทั้งยังเป็นคนคอยจัดการเรื่องเงินที่ได้จากการหลอกลวง มีการโอนเงินไปซื้อขายเหรียญคริปโตอันเป็นลักษณะการฟอกเงิน ส่วนที่เหลือทำหน้าที่เป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ โทรหาผู้เสียหาย พูดคุย ตามสคริปที่เตรียมไว้ แล้วทำการหลอกให้โอนเงิน โดยใช้อุบายว่าเป็นเจ้าพนักงานอัยการเกาหลี ตรวจสอบพบว่าผู้เสียหายเกี่ยวข้องกับคดีที่มีอัตราโทษร้ายแรง ต้องทำการตรวจสอบเงินในบัญชี เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินมาให้ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย โดยพนักงานจะได้รับเงินรางวัล 5-10 % ของยอดเงินที่หลอกได้ โดยแต่ละคนเคยได้รับเงินรางวัลมากกว่า 150,000 บาท ต่อผู้เสียหาย 1 ราย ซึ่ง MR.LEE JONG หรือ นาย ลี จอง จะเป็นผู้จัดสรรยอดเงินนั้น โดยปรากฎรายการเบอร์โทรศัพท์สำหรับการสุ่มโทรมากกว่า 30,000 เบอร์ มีผู้เสียหายจำนวนหลายราย มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท จึงได้ทำการจับกุมตัวพร้อม ของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน กก.สส.บก.ตม.5 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป