พม. จับมือสโมสรซอนต้า กรุงเทพ 1 จัดงาน Stop Violence Against Women and Girls รณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี
วันที่ 30 พ.ย. 65 เวลา 11.00 น. “นายจุติ ไกรฤกษ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ภายใต้ชื่อ “Stop Violence Against Women and Girls” โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม. และสโมสรซอนต้าประเทศไทย โดยสโมสรซอนต้า กรุงเทพ 1 ซึ่งมี “นางจินตนา จันทร์บำรุง” อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ดร.อุษณีย์ มหากิจศิริ ลีโอณีโอ นายกสโมสรซอนต้า กรุงเทพ 1 พร้อมคณะกรรมการ และสมาชิก ดร.ลาลีวรรณ กาญจนอารี Past Nominating Committee Member (At Large), Past International Director Zonta International นายธีรภัทร์ สัจจกุล (ตุ้ย) นักร้อง นักแสดงชื่อดัง แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน ณ บริเวณชั้น G ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพฯ
นายจุติ กล่าวว่า ด้วยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2542 เห็นชอบให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็น “เดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี” โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นหน่วยงานหลักของภาครัฐประสานการดำเนินงานดังกล่าวโดยบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมรณรงค์ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ที่ส่งกระทบต่อสังคมในวงกว้าง และกระตุ้นให้ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการรณรงค์ยุติความรุนแรงดังกล่าว ตลอดจนให้เห็นถึงความสำคัญของพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ ปี 2565 กระทรวง พม. ได้ร่วมกับสโมสรซอนต้าประเทศไทย โดยสโมสรซอนต้า กรุงเทพ 1 จัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ภายใต้ชื่อ “Stop Violence Against Women and Girls” ในวันนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังของภาคีเครือข่ายทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ตลอดจนบุคคลสำคัญต่าง ๆ โดยมีสื่อมวลชนเข้ามาช่วยเผยแพร่ข่าวสารประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปได้มีความตระหนักรู้และมีส่วนร่วมเป็นกระบอกเสียงในการรณรงค์ยุติความรุนแรง ซึ่งกระทรวง พม. พร้อมร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการแสดงพลังเพื่อยุติความรุนแรง เพื่อให้เด็กและสตรีในประเทศไทยและทั่วโลก สามารถยืนหยัดอย่างมีศักดิ์ศรีและไม่ยอมรับการถูกกระทำด้วยความรุนแรงในทุกรูปแบบ
ทั้งนี้ การจัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีไม่ใช่เพียงรำลึกถึงภัยความรุนแรงจากครอบครัว เพราะในวันนี้สังคมเกิดความเครียดจากโควิด – 19 และความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ตนขอเชิญชวนทุกคนให้ความสำคัญกับครอบครัว ด้วยความรัก การให้อภัย การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งนับเป็นสิ่งจำเป็น ถ้าเราทำได้เราจะสามารถลดความรุนแรงในครอบครัว และช่วยเหลือสังคมได้