‘ครอบครัวเพื่อไทย’ ระดมพลชาวเจียงฮาย เพื่อไทยมาเหนือสุด คึกคัก ‘ส.ส.-ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.’ ตบเท้าขึ้นเวทีพร้อมหน้า ร่วมกันเดินหน้าแลนด์สไลด์คืนชีวิตที่ดีและอนาคตให้ชาวเชียงราย
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรค , ส.ส. , ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และสมาชิกพพรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม ‘ครอบครัวเพื่อไทย ระดมพลชาวเจียงฮาย เพื่อไทยมาเหนือสุด’ ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ GMS เชียงราย โดยประชาชนผู้รักประชาธิปไตยสนใจเข้าร่วมกิจกรรมคึกคัก
.
โดยกิจกรรมบนเวทีได้มีการนำเสนอแนวนโยบายของพรรคเพื่อไทยและทิศทางของครอบครัวเพื่อไทยในก้าวต่อไป พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยในจังหวัดเชียงราย ประกอบด้วย นายธนรัช จงสุทธานามณี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน นายมงคลชัย ดวงแสงทอง นางสาวละออง ติยะไพรัช นายวิกรม เตชะธีราวัฒน์ นายวิสิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ นายอิทธิเดช แก้วหลวง และนายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์
.
[ จบปัญหา ‘ยาเสพติด’ ต้องสร้างเศรษฐกิจที่ดี ]
.
นอกจากนี้ ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย ยังได้แสดงวิสัยทัศน์การแก้ไขปัญหาและแนวทางการพัฒนาพื้นที่จังหวัดเชียงรายในด้านต่างๆ โดย นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย กล่าวว่า วันนี้ยาเสพติดเต็มบ้านเต็มเมือง ลูกหลานเสพยา สร้างปัญหาครอบครัว สร้างปัญหาสังคมมากมาย แต่รัฐบาลประยุทธ์ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จนยาเสพติดท่วมประเทศและทั่วโลกหวาดกลัวประเทศไทย ซึ่งก็ได้ทำให้เชียงรายถูกมองเป็นต้นทางของยาเสพติด เพราะรัฐบาลชุดนี้ละทิ้งเรา ดังนั้นเราจึงต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา ช่วยกันเปลี่ยนภาพที่ถูกมองเป็นเมืองยาเสพติดเป็นเมืองเศรษฐกิจ เพราะจังหวัดเชียงรายมีพื้นที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เชื่อมโยงไปยังจีน ดังนั้นเราจึงเป็นช่องทางการค้าที่สำคัญ เรามีศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่และมีเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน มีความพร้อมเปิดรับนักลงทุน เราจะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง อีกทั้งเรายังเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศ จากวันนี้เราจะร่วมกันทำให้เชียงรายเป็นเมืองเศรฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้ได้
.
[ เชียงราย ความงามแห่งแผ่นดิน ชาติพันธุ์ ]
นายวิกรม เตชะธีราวัฒน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย กล่าวว่า เชียงรายจังหวัดเดียว กลุ่มชาติพันธุ์มีมากถึง 18% จากจำนวนประชากรทั้งหมด และใน 130,000 คนนี้ ยังเป็นบุคคลไร้สัญชาติซึ่งเป็นปัญหาสำคัญ โดยเฉพาะการไม่มีเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ที่แม้จะเกิดในโรงพยาบาลบนแผ่นดินไทย แต่กลับจะไม่ได้รับสิทธิใดๆ ทั้งสิทธิในการเลือกตั้ง สิทธิทางการศึกษาหรือสิทธิการเข้าถึงธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งในยุครัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา พี่น้องชาติพันธุ์ต้องใช้ชีวิตลำบากมากขึ้น เพราะทัศนคติและการบังคับใช้กฎหมายของภาครัฐที่ไม่มองเรื่องสิทธิมนุษยชน แต่ถ้าการเมืองดี มีผู้นำที่ดีและเข้าใจประชาชน เหมือนในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ที่มีการสำรวจกลุ่มชาติพันธุ์อย่างจริงจังเพื่อให้สัญชาติไทย หรือในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ให้สิทธิการรักษาพยาบาลครอบคลุมบุคคลไร้สัญชาติ
.
นายวิกรม กล่าวว่า โครงการดีๆ ในสมัยรัฐบาลทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องจบลงไป เพราะการรัฐประหาร ดังนั้นหากพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลจะผลักดันกฎหมายส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ เพื่อคืนความเท่าเทียมและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้พี่น้องให้สำเร็จ โดยเสนอ 4 เรื่องดังนี้ 1. โครงการ ‘อำเภอสุขใจ’ ต่อยอดการให้บริการประชาชนด้วยใจโดยเปิดโอกาสให้กลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่เข้ามาทำงานในที่ว่าการอำเภอ สร้างงานสร้างอาชีพและการมีส่วนร่วม 2. ผลักดันโฉนดชุมชน ออกเอกสารสิทธิที่ดินทำกินโดยคนในชุมชน เพื่อคนในชุมชนและจัดสรรที่ดินให้คนในชุมชน 3.ส่งเสริมเรื่องเศรษฐกิจและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและผลักดันรัฐวิสาหกิจชุมชน เพื่อส่งเสริมการตลาดและเทคโนโลยีเพื่อสร้างอาชีพและ 4. ผลักดันกฎหมายส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ กำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ และสภาชาติพันธุ์ เข้าถึงสิทธิทรัพยากรและสิทธิในการจัดการตนเองในชุมชน
.
[ เชียงราย แผ่นดินทอง ‘การค้าชายแดน’ ประตูสู่ตลาดโลก ]
นายอิทธิเดช แก้วหลวง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เชียงราย กล่าวว่าการค้าชายแดนและการเชื่อมโยงกับอนุภูมิภาคเป็นเรื่องสำคัญของเชียงราย เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญการติดต่อด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว ในระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้าโขง (GMS Economic Corridors) ตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งในอดีตรัฐบาลไทยรักไทยและรัฐบาลเพื่อไทย ที่นำโดยอดีตนายกฯทักษิณและอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ได้พัฒนาจุดเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านไว้อย่างต่อเนื่องทั้งสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน สะพานมิตรภาพไทย-ลาว การริเริ่มจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน รวมทั้งเสนอโครงการ 2 ล้านล้าน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ทั้งระบบ หากทำสำเร็จจะเชื่อมโยงเครือข่ายเศรษฐกิจประเทศและพัฒนาสู่ฮับการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ซึ่งเชียงรายจะได้ประโยชน์มหาศาล
.
นายอิทธิเดช กล่าวอีกว่าตัวเลขการส่งออกที่ ‘ด่านแม่สาย’ ในปี 2564 ยังมีมูลค่าถึง 13,888 ล้านบาท เป็นมูลค่าการส่งออก 12,000 ล้านบาท มูลค่านำเข้าเพียง 1,854 ล้านบาทและเราได้ดุลการค้ากว่า 10,171 ล้านบาท ส่วน ‘ด่านเชียงของ’ และ ‘เชียงแสน’ ปี 2564 มีมูลค่ารวมโดยประมาณ 5,900 ล้านบาท ได้ดุลการค้ารวมกว่า 4,900 ล้านบาท ทั้ง 3 ด่านนี้สร้างดุลการค้า สร้างรายได้ สร้างงาน สร้างเงินให้ประเทศกว่า 15,000 ล้านบาท ยืนยันว่าเชียงรายคือจุดยุทธศาสตร์การค้าที่สำคัญนำเงินเข้าประเทศมหาศาล
.
อิทธิเดช ย้ำว่า อยากให้เศรษฐกิจดี ต้องเลือกพรรคเพื่อไทย หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลสัก 8 ปีสถานการณ์ต่างๆ จะดีกว่านี้นับร้อยเท่า โดย 1.เจรจาเปิดการค้าที่ติดขัดในเชิงนโยบาย พร้อมจัดทำ ‘ยุทธศาสตร์การค้าชายแดน’ เพื่อเชื่อมต่อการค้ากับประเทศในกลุ่มตามกรอบข้อตกลงต่างๆที่ไทยเป็นภาคีสมาชิกและภายใน 3 ปีจะเพิ่มมูลค่าการค้ารวมกันทุกด่านพรมแดนของเชียงราย จาก 5 หมื่นล้านบาท ให้เป็น 1 แสนล้านบาทและเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนและค้าผ่านแดนทั่วประเทศ จากปีละ 1.7 ล้านล้านบาท เป็น 3 ล้านล้านบาท 2.จัดตั้งหน่วยงานมารับผิดชอบการค้าชายแดนโดยตรง เพื่อแก้ไขปัญหาและส่งเสริมการค้าชายแดนอย่างมีเอกภาพ 3. ทำ Mobile Customs and Certifications หรือรับรอง Cerfiticate ของผลิตภัณฑ์เชียงราย โดยรัฐบาลให้กรณีผ่านมาตรฐาน เป็น C3 สร้างมาตรฐานการคัดกรองสินค้าส่งออก ลดความเสี่ยงถูกกักกันสินค้าที่ชายแดนจีน 4.จะผลักดันให้มีการทำ Vat Refund ที่ด่านพรมแดนได้ รวมถึงให้ผู้ที่ต้องการเดินทางเข้ามาประเทศไทยสามารถทำ Visa on Arrival (VOA) ณ ด่านพรมแดนที่เป็น ‘จุดผ่านแดนถาวร’ รวมทั้ง สนามบินนานาชาติแม่ฟ้าหลวง 5. เร่งรัดจัดทำระบบผังเมืองชายแดน โครงสร้างพื้นฐาน และระบบขนส่งระหว่างเมืองชายแดน สร้างระบบการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิและระบบขนถ่ายสินค้า สร้างตลาดขายส่งขายปลีกสินค้าเกษตรมูลค่าสูง ส่งเสริมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์จากวัตถุดิบในท้องถิ่นและสร้างเทอร์มินอลผู้โดยสาร เพื่อเชื่อมต่อระบบเดินทางทั้งทางรถ ทางราง เรือ และทางอากาศ เพื่อรองรับการเติบโตของการท่องเที่ยว ตลาดส่งออกสินค้า และ”เป็นศูนย์กลางการส่งสินค้าข้ามแดนหลายรูปแบบ
.
[ เชียงราย เที่ยวทุกฤดู พร้อมสรรพสายมู-ศิลปะประวัติศาสตร์ ]
นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เชียงราย กล่าวว่า เชียงรายคือเมืองแห่งประตูการค้าไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน และด้วยศักยภาพที่มีทำให้เชื่อมั่นว่าเชียงรายต้องเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ที่อุดมไปด้วย ประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม และความหลากหลาย ซึ่งไม่เพียงวัดวาอารามแหล่งท่องเที่ยวเชิงพุทธศิลป์และมีเกจิอาจารย์ชื่อดังที่คนทั่วประเทศเดินทางมาสักการะเท่านั้น แต่การท่องเที่ยวสายมูยังพัฒนามาไกลจนมีการทำ one day trip ไหว้พระธาตุ 9 จอมซึ่งยังต่อยอดได้อีกไกล แล้วยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังระดับโลกมากมาย อาทิ ถ้ำหลวง อำเภอแม่สาย จากภารกิจเสี่ยงตายช่วยเหลือน้องๆ 13 หมูป่า ซึ่งเรื่องราวแห่งความประทับใจนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาสู่ถ้ำหลวงวันละนับหมื่นคน รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่ยืนยันว่าเชียงรายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยศักยภาพ ความหลากหลาย วัฒนธรรมที่น่าค้นหาที่เที่ยวได้ทุกฤดู! ที่สำคัญเชียงรายมีรอยยิ้มและมิตรภาพอันดีที่ประทับใจนักท่องเที่ยวทุกคน
.
นางสาววิสาระดี กล่าวอีกว่า 3 ปีที่ผ่านมาการบริหารและนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาล ซ้ำเติมวิกฤตโควิด ให้หนักขึ้น ธุรกิจในภาคการท่องเที่ยวจำนวนมากเดินต่อไม่ไหวต้องปิดตัวไป จนเชียงรายเกือบกลายเป็นเมืองร้าง กระทบผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ แม้วันนี้จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวแล้วแต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น การท่องเที่ยวยังคงซบเซา หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเราจะเราจะผลักแคมเปญ ‘เชียงราย ท่องเที่ยวทุกฤดู’ เราเที่ยวกันได้ทั้งปี โดยหยิบจับสิ่งที่มีอยู่มาปรุงใหม่ให้ออกมาขายได้ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวให้ฟื้นขึ้นมาให้ได้ในระยะสั้น และวางแผนพัฒนาการท่องเที่ยวให้คงอยู่คู่กับเชียงรายได้อย่างยั่งยืน โดย 1. ภาครัฐจะต้องกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถทำสิ่งต่างๆเพื่อพัฒนาจังหวัดได้เพื่อเอื้ออำนวยต่อการท่องเที่ยว 2.ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหรือธรรมชาติ จัดเทศกาลใหญ่สะท้อนเอกลักษณ์ของพื้นที่เพื่อดึงดูดคนทั่วโลก ซึ่งพรรคเพื่อไทยมองเห็นโอกาสในส่วนนี้ ซึ่งเชียงรายเป็นดินแดนที่ล้ำค่า เป็นแผ่นดินทองที่รวมความหลากหลายทางวัฒนธรรม ที่สามารถสืบสานและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจอีกมากหากได้รัฐบาลประชาชนที่บริหารเป็นเข้ามาทำหน้าที่
.
[ HUB ภาพยนตร์ เมืองแฝด โอกาสใหญ่ของเชียงราย-เชียงใหม่ ]
ร.ต.อ.ธนรัช จงสุทธานามณี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เชียงราย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมองเห็นโอกาสของการพัฒนาวงการภาพยนตร์ไทย ซึ่งพลังของภาพยนตร์ คือ Soft Power ที่จะนำมาซึ่งการฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ สร้างรายได้ที่ดีสำหรับประชาชน ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วมากมาย อาทิ ละคร ‘บุพเพสันนิวาส’ ที่มีอิทธิพลทำให้คน ‘ออเจ้า’ กันทั้งบ้านทั้งเมืองและเกิดกระแสการใส่ชุดย้อนยุคไปตามสถานที่ต่างๆ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือ อิทธิพลจากซีรีส์เกาหลีใต้ ที่ทำให้เกิดการบินท่องเที่ยวตรงสู่เกาหลีใต้จำนวนมาก หรือเมื่อ 10 ปีก่อนที่ภาพยนตร์จีน Lost in Thailand มาถ่ายทำในประเทศไทย หลังออกฉายในปี 2555 ทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นในทันทีถึง 13% ในเดือนถัดมา และจังหวัดเชียงใหม่กลายเป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายสำคัญที่คนจีนต้องไปเยือนเพื่อตามรอยภาพยนตร์
.
ร.ต.อ.ธนรัช กล่าวว่า ได้เสนอให้จัดตั้งเขตพิเศษเศรษฐกิจภาพยนตร์ เมืองแฝด เชียงใหม่-เชียงราย ซึ่งมีต้นทุนความพร้อม ทั้งธรรมชาติที่สวยงามสมบูรณ์ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวและกองถ่ายทำ โดยรัฐจะต้องสนับสนุนส่งเสริมในด้านต่างๆ และอำนวยความสะดวกแบบ One Stop Service ลดอุปสรรคยุ่งยากซับซ้อน พร้อมเชื่อมโยงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และบุคลากรของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย หากทำได้สำเร็จ ‘เงิน’ จะไม่สะพัดแค่ที่เชียงราย แต่การพัฒนาความรู้ความสามารถและโอกาสจะส่งผลต่อคนทั้งประเทศ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมองเห็นโอกาสและพร้อมทำทุกอย่างให้พ่อแม่พี่น้องมีชีวิตที่ดีขึ้น
///////////////