/จังหวัดชัยภูมิ “เมืองเจ้าพ่อพญาแล” เป็นอีกหนึ่งจังหวัดของภาคอีสาน ที่มีนักกีฬาระดับชาติและนานาชาติมากมายหลายชนิดกีฬา สร้างชื่อเสียงให้กับชาวชัยภูมิ มาโดยตลอดทั้งในอดีตและปัจจุบัน “กีฬามวยไทย” เป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬา ที่ชาวชัยภูมิให้ความสนใจมากไม่แพ้กีฬาอื่นๆ ที่สำคัญเป็นการสร้างชื่อให้ชาวชัยภูมิเป็นอย่างน่าประทับใจ
เมื่อเร็วๆนี้ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชัยภูมิ สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จ.ชัยภูมิ และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดชัยภูมิ ได้ผนึกกำลังจัดการชกมวยอาชีพเวทีแรกหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ณ เวทีมวยชั่วคราวศาลเจ้าพ่อพญาแล หนองปลาเฒ่า ต.ในเมือง อ.เมืองชัยภูมิ โดยมี ดร.ปัญญา หาญลำยวง อดีตรองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาเป็นประธานเปิดการแข่งขันมวยไทยอาชีพ ศึกสดุดีสืบสานตำนานพระยาภักดีชุมพล(แล)เจ้าเมืองคนแรก จ.ชัยภูมิ โดยจัดให้มีการแข่งขันการชกมวยไทยอาชีพส่วนใหญ่เป็นนักมวยรุ่นใหม่ชาวชัยภูมิ จำนวน 12 คู่ ซึ่งมีมวยคู่เอกที่ขึ้นชกในเวทีนี้ถึง 5 คู่ อย่างเช่น “ยอดดวงใจ สจ.มนตรี” ประกบกับ “เพชรพิเชษฐ์ ลูกเจ้าแม่ไทรทอง” ในรุ่นน้ำหนัก 62 กิโลกรัมส่วนมวยไทยคู่อื่น ๆ ล้วนแต่ขึ้นชกอย่างดุเดือดไม่สร้างความผิดหวังให้กับแฟนมวยไทย ที่รอคอยมาเกือบ 3 ปี
พ.ต.อ. สรวิศ มาอินทร์ นายกสมาคมกีฬาแห่งชัยภูมิ และนายก อบต.นาฝาย ต.ช่อระกา อ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งเป็นอดีตนักกีฬามวยไทย กล่าวว่า ตนเห็นว่ากีฬาเป็นความสำคัญต่อชาวชัยภูมิ สร้างพลานามัยพร้อมกับการมีน้ำใจเป็นนักกีฬา ที่สำคัญสร้างอาชีพสร้างรายได้เป็นอย่างดียิ่ง
การส่งเสริมสนับสนุบด้านกีฬาโดยเฉพาะมวยไทยสู่สากล จึงเป็นสิ่งที่ส่วนท้องถิ่นต้องให้ความสำคัญ อย่างเช่น อบต.นาฝาย ได้มีนโยบายพัฒนาโค้ชมวย ครูฝึกให้การส่งสริมสนับสนุน นักเรียน นักกีฬา ประชาชนที่สนใจ ส่งใจเข้ามาเรียนรู้ฝึกฝนอย่างมืออาชีพ เพื่อเป็นการสร้างอาชีพสู่ระดับประเทศและนานาชาติ และที่สำคัญเป็นการการสร้างรายได้ยกฐานะทางครัวเรือนได้เป็นอย่างดี
“มวยไทย เป็นการสร้างพลานามัย สร้างมิตร และสร้างรายได้ ที่ผ่านมาตังแต่วัยรุ่นวัยเรียนตนได้เป็นนักกีฬามวยไทย ตะเวนแข่งขันสามารถสร้างรายได้ในช่วงวัยเรียน และขณะที่เป็นนักเรียนตำรวจ สร้างชื่อเสียงและมีเพื่อนมากมายทั่วประเทศอีกด้วย” พ.ต.อ. สรวิศ กล่าว
ด้าน “ยอดเพชร ร.ร.เมืองพญาแลวิทยา” ชาวอำเภอบ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ปัจจุบันเป็นนักมวยแนวหน้า ชกนักมวยระดับคู่เอกหลายรายการระดับประเทศไทย เผยว่า ตนรู้สึกดีใจกับการจัดการแข่งขันมวยไทยในบ้านเราชัยภูมิ เพราะที่ผ่านมา 2-3 ปี ในสถานการณ์โควิด-19 มี่การแข่งขันเลย ทำให้นักมวยขาดรายได้ จึงอยากให้จังหวัดชัยภูมิ ได้มีการแข่งขันชกมวยมวยไทยบ่อยๆ ทั้งครูฝึก ค่ายมวย นักมวยจะได้มีรายได้มีอาชีพ มีทุนการเรียนต่อในระดับสูงๆและพัฒนาฝีมือสู่ระดับสากลต่อไป
ซึ่งการจัดงาน “ศึกสดุดีสืบสานตำนานพระยาภักดีชุมพล (แล)” ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันชกมวยไทยอาชีพ ได้สมทบทุน 20,000 บาท ให้กับมูลนิธิศาลเจ้าพ่อพญาแล และยังมีผู้เข้าชม ได้สบทบเงินใส่กล่องรับบริจาคหน้าทางเข้าเวทีมวยทั้มอบให้กับมูลนิธิฯ โดยไม่หักค่าใช้จ่าย เพื่อสมทบทุนในการก่อสร้างศาลเจ้าพ่อพญาแลหลังใหม่อีกด้วย ////
