นิพนธ์ ส่งสัญญาณ สาขาพรรค สมาชิก ปชป. เตรียมทัพ สร้างความพร้อม สู้ศึกเลือกตั้ง มั่นใจ ผลงานชัด ประกันรายได้ เกษตรกรได้ประโยชน์กว่า 10 ล้านครัวเรือน เร่ง ปรับรูปแบบการประชาสัมพันธ์เพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคปชป. เป็นประธานเปิดการประชุมเวทีระดมความคิดนำคอหงส์สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีนายสมยศ พลานด้วง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคปชป.เขต 3 สงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกอบจ.สงขลา นายนิพัฒน์ อุดมอักษร ว่าที่ผู้สมัคร เขต 2 พรรคปชป. นายทวีศักดิ์ อรัญดร ส.อบจ.สงขลา ประธานสาขาพรรคและกรรมการสาขาพรรค ปชป.เขต 3 สงขลา รวมถึงแกนนำในขุมชน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และสมาชิกพรรคร่วมเปิดเวทีระดมความคิดเห็น และข้อเสนอแนะในการทำงานในพื้นที่ตำบลคอหงส์ ณ โรงแรมต้นอ้อย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณทุกคนในเขต 3 สงขลา ที่มีความเข้มแข็ง รวมถึงประธานสาขาพรรคและผู้สมัคร ส.ส.ในเขต 3 สงขลา ถือเป็นตัวอย่างของประเทศไทยทั้งประเทศ ในการทำกิจกรรมทางการเมืองในการให้ความรู้แก่สมาชิกในระดับรากหญ้า เป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสมาชิกของพรรคปชป. พรรคปชป.จัดตั้งขึ้นมาเพื่อให้พี่น้องมีความมั่นใจในพรรคปชป. ซึ่ง พรรคปชป.ถือเป็นสถาบันทางการเมืองที่ไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของ กว่า 77 ปีที่พรรคปชป.มีการเปลี่ยนยุคเปลี่ยนสมัย จนถึงปัจุบัน มาถึงคนรุ่นใหม่ที่กำลังผลิใบในการ สืบทอดเจตนารมณ์ของพรรคปชป.ต่อไปในอนาคต นี่คือการทำการเมืองที่ถูกต้อง ตั้งแต่ฐานรากในการร่วมแสดงความคิดเห็น ถือเป็นการเตรียมพร้อมทั้งในเรื่องนโยบาย ในเรื่องแผนงาน และในเรื่องของตัวบุคคล
ครั้งนี้จึงถือเป็นการเตรียมความพร้อมของพรรคอุดมการณ์ของพรรคปชป.ได้ประกาศอุดมการณ์ 10 ข้อ ซึ่งในข้อที่ 5 พรรคปชป.เน้นในเรื่องของการกระจายอำนาจ ตั้งแต่นายชวน ที่มีนโยบายในเรื่องของการกระจายอำนาจจากในเมืองสู่ชนบท และในสมัยป๋าเปรม ถือเป็นสมัยที่มีการเร่งรัดในเรื่องของการพัฒนาชนบท เพื่อไม่ให้เกิดชุมชนแออัด จนเกิดเป็นเมืองขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก นี่คือนโยบายการกระจายอำนาจของพรรคปชป. เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในอดีต ซึ่งตนมีความเชื่อว่า ถ้าทำท้องถิ่นเข้มแข็ง ประเทศไทยก็จะเข้มแข็งไปด้วย ดังนั้นพรรคปชป.จึงมีนโยบายในเรื่องของการกระจายงบประมาณลงสู่ท้องถิ่น เพื่อสร้างความเจริญ และสร้างความเข้มแข็งให้กับท้องถิ่น
วันนี้เราต้องใช้กลไกสมาชิกในการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ของมวลสมาชิกจึงเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งจะเป็นการปรับรูปแบบในการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบโซเซียลให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสมาชิก เพื่อสร้างกลุ่มในการติดต่อสื่อสาร ซึ่งจะเป็นการเตรียมความพร้อมกับการเลือกตั้งในสมัยหน้า จึงต้องย้ำในเรื่องของการปรับเปลี่ยนการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบว่า พรรคปชป.ทำอะไรบ้างที่ผ่านมา ตั้งแต่เรื่องของนมโรงเรียน เรื่องอาหารกลางวันนักเรียน เรื่องของเงิน กยศ. การสร้างถนนสี่เลนทั่วประเทศ เรื่องเงินค่าตอบแทนแก่ อสม. เงินผู้สูงอายุ สวัสดิการเหล่านี้เป็นเรื่องของพรรคปชป. ที่ได้วางรากฐานไว้จนถึงปัจจุบัน
วันนี้พรรคปชป.จึงมีความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง ทั้งเรื่องของนโยบาย และเรื่องของตัวบุคคล 77 ปีของพรรคปชป. เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ในหลายๆเรื่องที่พรรค ปชป.ทำ กว่า 520,000 ล้าน ที่พรรคปชป.เข้ามาดูแลพี่น้องเกษตรกรได้ประโยชน์กว่า 10 ล้านครัวเรือน 35ล้านคนในเรื่องของการประกันรายได้ การลดต้นทุนการผลิต ช่วยเหลืออชาวสวน เป็นต้น ในตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น ขอให้ประธานสาขาพรรค สมาชิกพรรค ได้นำเรื่องราวที่พรรคได้ทำและเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนไปประชาสัมพันธ์ เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งที่จะมาถึง ในต้นปีหน้า
///