สระบุรี – กระทรวงยุติธรรมเปิดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนจังหวัดสระบุรีและยุติธรรมพบประชาชน(มีคลิป)
วันที่ 18 กรกฏาคม 2565 เวลา 14.00 นาฬิกา ณ หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี ตำบลตะกุด อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน จังหวัดสระบุรี และยุติธรรมพบประชาชน ครั้งที่ 47 โดยมีนายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวต้อนรับ พร้อมคณะหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานสถาบันการเงิน
นางสุจิตรา แก้วไกร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ รายงานว่า รัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชนตั้งเป้าหมายในปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาหนี้ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มหนี้ กระทรวงยุติธรรม จึงได้นำเป้าหมายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย การแก้ไขปัญหาหนี้ กยศ. การแก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล การแก้ปัญหาหนี้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ และ การปรับปรุงขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม เพื่อเอื้อให้เกิดการแก้ไขปัญหาหนี้สิน โดยมีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลหนี้สินภาคครัวเรือนของประชาชนก่อนมีการฟ้องคดีต่อศาล และกรมบังคับคดี ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลหนี้สินภาคครัวเรือนของประชาชนภายหลังศาลมีคำพิพากษาให้มีการบูรณาการงานร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบกลาง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ ๗๖ จังหวัดทั่วประเทศ โดยที่ผ่านมาได้จัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ ๑ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในการเบิดงานเมื่อวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์ 2565 มีประชาชนร่วมงานจำนวนมาก และสามารถไกล่เกลี่ยได้รวมมูลหนี้ถึง 930 ล้านบาท
สำหรับการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนจังหวัดสระบุรี และยุติธรรมพบประชาชนในวันนี้ ประกอบด้วย การมอบเงินเยียวยาแก่ผู้เสียหายตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา การมอบป้ายศูนย์ใกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน การแสดงนิทรรศการเผยแพร่ภารกิจและบริการต่างๆ ของหน่วยงานในกระทรวงยุติธรรม การเสวนาและการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท รวมทั้งการจัดกระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนระหว่างเจ้าหนี้ ลูกหนี้ โดยได้รับความร่วมมือจาก กยศ. ขนส่งจังหวัดสระบุรี และหน่วยงานเครือข่ายสถาบันการเงินต่าง ๆ แยกเป็นลูกหนี้ก่อนฟ้อง จำนวน 4,017 ราย ทุนทรัพย์ เป็นเงิน 333,071,597,05 บาท ลูกหนี้หลังฟ้อง จำนวน ๙๖๗ ราย ทุนทรัพย์เป็นเงิน 125,425,185.56 บาท รวมลูกหนี้ที่เชิญเข้าร่วมงาน ทั้งสิ้น 4,984 ราย ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 458,495,782.51 บาท
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ผู้ที่ร่วมงานครั้งนี้จะได้รับความช่วยเหลือให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้ที่มีภาระหนี้ที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนสอดคล้องกับรายได้ ช่วยเหลือลดภาระให้กับลูกหนี้ ให้ลูกหนี้ เจ้าหนี้เจรจายุติข้อพิพาทด้วยความพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย หากตกลงกันได้จะมีผลให้ไม่ถูกฟ้องคดี หรืองดการบังคับคดีตลอดจนเกิดการถอนการยึดทรัพย์ ถอนการอายัดสิทธิเรียกร้อง และถอนการบังคับคดี เป็นการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการฟ้องร้องคดี ในการแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนโดยมี กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ที่มีศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน จำนวน ๖๖๗ แห่ง ในกรุงเทพมหานคร และทุกจังหวัดทั่วประเทศ จะทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องคดีต่อศาล ในขณะที่กรมบังคับคดีมีศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ในกรุงเทพมหานคร และสำนักงานบังคับคดีจังหวัด ทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวม ๑๑๗ แห่ง มีผู้ใกล่เกลี่ยที่เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถและเป็นคนกลาง ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภายหลังศาลมีคำพิพากษา นอกจากนี้กรมบังคับคดีจะได้ปรับปรุงแก้ไข กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูกิจการ SME เพื่อเสริมสร้างสภาพคล่องในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งถือเป็นกลไกหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขหนี้ครัวเรือนได้เป็นอย่างดีและเป็นที่เชื่อมั่นได้ว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับประชาชนในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ให้มีช่องทางแก้ไขปัญหา โดยการเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่าย สะดวก รวดเร็ว สามารถช่วยเหลือประชาชนในทุกกลุ่มหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทั่วประเทศ
****************
กฤษฎา สมมาตร
รายงานจากสระบุรี